มงคลกิตติ์ บุกขอคลิปวงจรปิดรัฐสภา "คดีแตงโม" ตกน้ำ เผยมีพฤติกรรมหลบกล้อง

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมาขอคลิปกล้องวงจรปิดคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม นิดา" ตกเรือเสียชีวิต โดยมีคลิปทั้งหมด 2 คลิปปรากฏภาพเรือของ "แตงโม" ขับผ่านอาคารรัฐสภา 2 ครั้ง แต่ภาพไม่ชัดเจน

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า ตามกฎจราจรทางเรือที่สอบถามจากเจ้าหน้าที่ เรือที่วิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยาจะต้องวิ่งเลนขวาของแม่น้ำ แต่เรือลำดังกล่าววิ่งทางเลนซ้ายของแม่น้ำมาตลอด ตั้งแต่ช่วงสะพานพระราม 7 สะพานซังฮี้ แต่เมื่อถึงอาคารรัฐสภา เรือกลับมาวิ่งเลนขวา และเมื่อผ่านรัฐสภาไป เรือก็กลับไปวิ่งเลนซ้ายเหมือนเดิม โดยใช้ความเร็วค่อนข้างช้า ประมาณ 4-5 น็อต ขับผ่านเวลา 21.47 น.

นายมงคลกิตติ์ สอบถามผู้สื่อข่าวว่า เห็นความผิดปกติไหม เพราะส่วนตัวมองว่าเรือขับถูกกฎหมายโดยใช้เลนขวา เฉพาะช่วงที่ผ่านรัฐสภาเท่านั้น เพื่อให้กล้องเห็น มั่นใจว่าคนที่ขับเรืออยู่ขณะนั้นรู้กฎหมายการเดินเรือ แต่กล้องรัฐสภามีแสงสว่างจ้า สามารถจับภาพไว้ได้ โดยกล้องมีทั้งหมด  8 ตัว 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการตรวจสอบกล้อง นอกจากอาคารรัฐสภาแล้ว ที่อื่นเรือลำนี้มีพฤติกรรมแบบเดียวกับคลิปวงจรปิดที่อาคารรัฐสภาหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ ตอบว่า โดยปกติที่อื่นจะเป็นร้านอาหารซึ่งจะแพลนกล้องเข้าด้านในร้าน ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าแตกต่างหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าเรือลำนี้กลัวแสง และตอกย้ำข้อสันนิษฐานส่วนตัวว่า “แตงโม” น่าจะตกเรือแถวท่าน้ำเทเวศน์

สำหรับประเด็นที่วันนี้ ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ไม่ให้นายมงคลกิตติ์ เข้าไปตรวจสอบกล้อง นายมงคลกิตติ์ ตอบว่าเป็นเพราะว่าการไฟฟ้าฯ ได้ให้กล้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ยืนยันว่าการทำงานของตนเองไม่ได้ตั้งใจจับผิดการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่เกรงว่าเทคโนโลยีสมัยนี้ สามารถลบภาพลบเงาและปรับแต่งได้ หากทางราชการทำงานฝ่ายเดียว หลักฐานอาจยังไม่แน่นพอ 

ถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีการแทรกแซงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ใครที่โดนคดีก็คงอยากจะต้องโทษให้น้อยที่สุด เท่าที่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นมันเป็นสิทธิ์ของคนทำผิดอยู่แล้ว ส่วนตัวอยากทวงความยุติธรรมให้กับ "แตงโม"

ส่วนเรื่องนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายของ "แม่แตงโม" ที่โดนคดีก่อนหน้านี้ มองว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะตนเองก่อนมาดำรงตำแหน่ง ส.ส. ก็ถูกดำเนินคดีเช่นกันถึง 13 คดี มองว่าเป็นเรื่องปกติและไม่กังวล เนื่องจากคิดว่าทนายกฤษณะ ตั้งใจว่าจะทำคดีนี้ให้สุดทาง แต่ขอเตือนว่าอย่าไปรับเงินคนที่ไม่ถูกต้อง