ข่าว

แม่ "ทารกแช่แข็ง" หอบหลักฐาน แจง ตร. ลูกเสียชีวิตในครรภ์ ไม่รู้สามีแช่เย็นศพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม่ "ทารกแช่แข็ง" นำหลักฐานยืนยันต่อตำรวจแม่ปิง ลูกเสียชีวิตในครรภ์ โดยสามีซึ่งรับโทษอยู่ในเรือนจำ เป็นคนรับศพลูกมาดำเนินการ โดยไม่ทราบว่านำมาแช่แข็งไว้

ความคืบหน้ากรณีการพบศพ ทารกถูกใส่ในตู้แช่  ที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่  พบว่าร่างของเด็กเหลือเพียงกระดูก และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วกว่า 1 ปี  ซึ่งหลังจากนั้นได้เร่งดำเนินการสืบสวนเบาะแสของกรณีที่เกิดขึ้น จนกระทั่งทราบว่าพ่อของทารก นั้นคือ นายเบญจรงค์ หรือเอลฟ์  (สงวนนามสกุล)  อายุ 24 ปี ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ และรับโทษอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงใหม่  

 

ล่าสุดวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ได้ทำการเชิญตัว นายวิรัตน์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ นายธงชัย  (สงวนนามสกุล)  อายุ 66 ปี พี่เขย  มาสอบปากคำเพิ่มเติม  ต่อมา  น.ส.แพรว (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ภรรยาของ นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ ได้เดินทางเข้าพบกับทางพนักงานสอบสวน พร้อมกับได้นำหลักฐาน เป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลนครพิงค์ มาแสดงกับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งในใบรับรองดังกล่าว แพทย์ได้ลงความเห็นว่า “ประวัติการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ 5-8 มีนาคม 2564 ได้รับการวินิจฉัยตั้งครรภ์ 29 สัปดาห์ มีภาวะความดันโลหิตสูง ระหว่างตั้งครรภ์ชนิดรุนแรงทารกเสียชีวิตในครรภ์ และมีภาวะรกลอกตัวก่อนกําหนด และได้รับการผ่าตัดคลอดเมื่อ 5 มีนาคม 2564 และได้รับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่ 5-8 มีนาคม 2564”

 

 

 

 


 

 

แม่ "ทารกแช่แข็ง" หอบหลักฐาน แจง ตร. ลูกเสียชีวิตในครรภ์ ไม่รู้สามีแช่เย็นศพ

 

 

น.ส.แพรว  แม่ของทารกแช่แข็ง  เปิดเผยว่า ตนได้คบหากับ นายเบญจรงค์ หรือ เอลฟ์ เมื่อช่วงกลางปี 2561 แต่พักคนละบ้าน ต่อมาเมื่อช่วงกลางปี 63 ตนได้ตั้งครรภ์ และฝากครรภ์ที่ รพ.นครพิงค์ เมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ตนมีอาการปวดท้องอย่างหนัก จึงไปพบแพทย์ และวินิจฉัยพบว่าตนมีอาการมีภาวะเสี่ยงที่บุตรจะเสียชีวิตในครรภ์  ซึ่งระบุว่ามีโอกาส 50/50 จะเก็บลูกไว้หรือไม่ แต่ตนได้เลือกเก็บไว้ จนเข้าสู่เดือนที่ 8 ตนมีอาการปวดท้องอย่างหนัก เหมือนจะคลอด นายเบญจรงค์ สามี ได้พาไปโรงพยาบาล ซึ่งหมอได้ทำการตรวจอัลตราซาวด์ พบว่าลูกที่เป็นเพศชายได้เสียชีวิตในครรภ์แล้ว แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากตนมีความดันสูง พร้อมทั้งได้ให้ยาลดความดัน จนความดันลดลง แล้วให้ดำเนินการผ่าตัด เนื่องจากเกรงว่าตนจะมีภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต จึงตัดสินใจผ่าตัดเอาลูกที่เสียชีวิตในครรภ์ออก

 

น.ส.แพรว บอกอีกว่า  ตนพักฟื้นได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ด้วยสภาพจิตใจย่ำแย่ และหมอไม่อนุญาตให้เห็นศพลูก ซึ่งฝั่งของ นายเบญจรงค์  เป็นคนจัดการเรื่องของศพลูกทั้งหมด ซึ่งอ้างกับตนว่าพ่อบุญธรรมได้มอบเงินมาให้ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าทำศพลูก หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวอีก และเข้าใจว่าได้ดำเนินการนำศพของลูกไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

แม่ "ทารกแช่แข็ง" หอบหลักฐาน แจง ตร. ลูกเสียชีวิตในครรภ์ ไม่รู้สามีแช่เย็นศพ

 

 

กระทั่ง นายเบญจรงค์ ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ช่วงประมาณปลายปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ญาติได้ส่งข่าวที่ระบุว่าพบศพเด็กทารก แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อขอมาให้ปากคำ  "จริงๆ ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เนื่องจากทำใจไม่ได้เกี่ยวกับการสูญเสียของลูก และก็ไม่รู้ว่าจะโกรธสามีทำไม เนื่องจากเรื่องมันผ่านไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ตนก็จะขอดำเนินการไปรับศพของลูก เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาด้วยตนเอง"

 

 

 

 

 

 

 

 

แม่ "ทารกแช่แข็ง" หอบหลักฐาน แจง ตร. ลูกเสียชีวิตในครรภ์ ไม่รู้สามีแช่เย็นศพ

 

ขณะที่นายวิรัตน์ เจ้าของบ้านซึ่งเป็นคนพบร่างทารกในตู้แช่คนแรก ระบุว่า เมื่อช่วงค่ำคืนวานนี้ ตนได้ซื้อเครื่องดื่มเพื่อจะนำมาเลี้ยงคนงาน ที่มาช่วยกันปรับปรุงบ้าน  และเห็นว่ามีตู้แช่อยู่ในห้อง ตนกะว่าจะเอาตู้มาแช่เครื่องดื่ม แต่ตู้นั้นมีการล็อคไว้ จึงงัดตู้ แล้วเปิดฝาตู้ก็ได้กลิ่นเหม็นออกมาจากตู้ และเมื่อตรวจดูก็เห็นห่อผ้า ซึ่งตอนแรกยังไม่คิดว่าเป็นศพทารก แต่เมื่อเอาไฟฉายส่องก็เห็นว่าห่อผ้า อีกทั้งยังมีกลิ่นฟอร์มาลิน จากนั้นตนก็พยายามสอบถามว่า ตู้แช่ดังกล่าวใครเป็นคนเอามาทิ้งไว้ เนื่องจากตนก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่กี่วัน รวมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและเข้ามาตรวจสอบ

 

ทางพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการรวบรวมเอกสารหลักฐาน คำให้การของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนคดี ส่วนศพทารกน้อยที่พบเจอนั้น หลังการตรวจชันสูตรแล้วจะได้มอบให้ทางญาตินำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ส่วนในเรื่องของความผิดทางกฎหมายเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น เบื้องต้นยังไม่มีการดำเนินคดีกับทาง นายเบญจรงค์   เนื่องจากได้รับร่างของลูกที่เสียชีวิตในท้องมารดามาถูกต้องตามความประสงค์  โดยมีหลักฐานทุกอย่าง และไม่ได้มีการลักลอบทำแท้ง รวมทั้งไม่มีการนำไปขาย ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินโดยชอบธรรม ที่สามารถรักษาเพื่อบูชาหรือเก็บไว้รำลึกถึง แต่อาจจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนต่อไป

 

 

 

แม่ "ทารกแช่แข็ง" หอบหลักฐาน แจง ตร. ลูกเสียชีวิตในครรภ์ ไม่รู้สามีแช่เย็นศพ

 

 


นำพล สุริยะเจริญ  ผู้สื่อข่าว จ.เชียงใหม่ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ