สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติ ได้ข้อสรุปร่วมกันเกมอุ่นเครื่อง"ทีมชาติไทย" 2 แมตช์ ตลอดมีนาคม ใช้ข้อกำหนดให้นักฟุตบอลฯ ที่ลงเล่นอยู่ในสนามไม่ครบ 90 นาที ลดเงื่อนไขความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ ที่จะสร้างปัญหาไปถึงสโมสรอาชีพต้นสังกัด
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ได้หารือร่วมกันต่อการกำหนดโปรแกรมการอุ่นเครื่องฟุตบอลทีมชาติไทย ในช่วงเดือนมีนาคม และ พฤษภาคม เพื่อเตรียมพร้อม"ทีมชาติไทย" ก่อนเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยกำหนดแผนเรียกตัว"ทีมชาติไทย" เข้าแคมป์เก็บตัว 21-29 มีนาคม ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ โดยจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด ด้วยกัน
แมตช์แรก 24 มีนาคม "ทีมชาติไทย" อันดับ 110 พบ ทีมชาติเนปาล (อันดับที่ 167 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) แข่งขันที่ สนามชลบุรี สเตเดียม , แมตช์ที่สอง วันที่ 27 มีนาคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติ ซูรินาม (อันดับที่ 140 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) สนามบีจี สเตเดียม ( ปทุมธานี) ขณะเดียวกันแนวทางในการบริหารผู้เล่นทีมชาติไทย มีข้อกำหนดว่า จะไม่ส่งผู้เล่นลงสนามเกิน 90 นาที ทั้ง 2 นัด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพการบาดเจ็บของนักกีฬา สามารถกลับไปลงสนามให้กับสโมสรต้นสังกัด เพื่อแข่งขันฟุตบอลไทยลีกต่อไป ซึ่งจะเป็นการหมุนเวียนผู้เล่น ที่จะได้สัมผัสเกม
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้เตรียมแผนการเก็บตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปประเทศอุซเบกิสถาน ทำการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพรอบคัดเลือก โดยจะพิจารณาคัดเลือกทีมในทวีปเอเชีย ซึ่งมีแผนที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องในต่างจังหวัด สำหรับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีทัวร์นาเมนต์สำคัญ 2 รายการ ในปี 2022 ดังนี้ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบคัดเลือก ที่ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 8-14 มิถุนายน 2565 โดยทีมชาติไทย อยู่กลุ่มซี ร่วมกับ อุซเบกิสถาน (เจ้าภาพ), มัลดีฟส์ และ ศรีลังกา , ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ในช่วงเดือนธันวาคม 2565
นักฟุตบอลทีมชาติไทยซึ่งจะถูกเรียกมาเก็บตัวในโปรแกรมอุ่นเครื่องเดือนมีนาคมนี้ โดยไทยมีคิวพบกับทีมชาติเนปาล และทีมชาติซูรินาม
ขอขอบคุณภาพจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง