
"ช้างสีดอโหนก" กลับมาแล้ว เกรงเป็นอันตรายซ้ำ เร่งผลักดันกลับป่า
ทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะผลักดัน "เจ้าสีดอโหนก" ให้ออกจากพื้นที่ แต่ช้างไม่ยอม และยังวิ่งเข้าหาทางเจ้าหน้าที่อีกด้วย
"ช้างสีดอโหนก" ที่เคยตกเป็นข่าวทำร้ายชาวบ้าน ล่าสุดพบช้างป่าตัวนี้อีกครั้ง บริเวณ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีช้างป่าจากเขาอ่างฤาไน เข้ามาหากินภายในหมู่บ้าน พื้นที่ ม.4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำให้พืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหาย ช้างตัวนี้ชื่อ "สีดอโหนก" เนื่องจากบริเวณโคนงวงช้างมีลักษณะเป็นโหนก มีรูปร่างขนาดใหญ่
ทางเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังผลักดันและติดตามแก้ไขปัญหาช้างป่าฯ จ.ฉะเชิงเทรา (อ.สนามชัยเขต) และเจ้าหน้าที่ อบต.เขาไม้แก้ว พร้อมผู้สื่อช่าว ได้ทำการผลักดันช้างออกไปจากพื้นที่แล้ว
ก่อนจะมาพบ "เจ้าสีดอโหนก" กลับเข้ามาในพื้นที่ ม.4 บ้านเขาไม้แก้ว อีกครั้ง และเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 ชาวบ้านเข้าไปหาเก็บผักป่าบริเวณ ป่าหนองกระดิกนิ้ว พื้นที่ ม.4 บ้านเขาไม้แก้ว ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และถูกช้างสีดอโหนกทำร้าย เสียชีวิต 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการผลักดันช้างป่าออกนอกพื้นที่
กระทั่งวานนี้ (4 มี.ค.65) ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบช้างป่าเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง เข้ามาหากินในพื้นที่บ้านเขาไม้แก้ว ช้างอยู่บริเวณป่าหนองกระดิกนิ้ว และหนองป่าไผ่ เกรงว่าจะเป็น "เจ้าสีดอโหนก" ทางเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างอ่างฤาไน นายประยูร สมโภชน์ นายกอบต.เขาไม้แก้ว ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ อบต.เขาไม้แก้ว พร้อมผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะผลักดัน "เจ้าสีดอโหนก" ให้ออกจากพื้นที่ โดยการจุดระเบิดลูกปิงปอง เพื่อใช้ในการผลักดัน แต่ทางเจ้าสีดอโหนกไม่ยอมออกจากพื้นที่และยังวิ่งเข้าหาทางเจ้าหน้าที่อีกด้วย
ซึ่งในการผลักดันเจ้าสีดอโหนกเป็นครั้งที่ 4 แล้ว เวลาประมาณ 17.40 เจ้าสีดอโหนก ได้ออกมาหากินบริเวณไร่อ้อยอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ จึงเริ่มผลักดันอีกครั้ง แต่เจ้าสีดอโหนกไม่มีที่ท่าว่าจะหนีไป แต่กลับยืนกินอาหารตามปกติ และยังย้อนกลับเข้าป่ายูคาอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องแผนใหม่ หลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.20 น. พบว่าเจ้าสีดอโหนกได้ออกมากลางไร่อ้อยอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงเริ่มผลักดันอีกครั้ง แต่เจ้าสีดอโหนกกลับหลังหัน มุ่งหน้ามาทางชุดเจ้าหน้าที่ผลักดันช้าง ทำให้ต้องถอยออกมา ส่วนเจ้าสีดอโหนกอาศัยความมืดหายกลับเข้าไปยังป่าหนองไผ่อีกครั้ง
และเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องขอยุติการผลักดันช้างชั่วคราว เนื่องจากเวลามืดค่ำ เกรงจะเป็นอันตราย อีกทั้งเจ้าสีดอโหนก ไม่มีทีท่าว่าจะออกนอกพื้นที่เลย และมีนิสัยเริ่มจะทำร้ายคน เมื่อเข้าใกล้ จึงได้แค่เฝ้าระวังไว้ก่อน เพื่อหารือวิธีนำช้างเจ้าสีดอโหนกออกจากพื้นที่ต่อไป
สายชล หนูแดง -ทัตธน เหล่าหล้า ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี