
หยามนโยบายรัฐบาล แก้ผลกระทบราคา "น้ำมันแพง" ไม่ได้
ฝ่ายค้าน ไม่เชื่อมั่นมาตรการภาครัฐ ช่วยคลี่คลายปัญหา "ค่าครองชีพ" ให้กับประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากสงคราม และ ราคา "น้ำมันแพง"
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความกังวลปัญหาค่าครองชีพของประชาชนที่จะมากขึ้น สืบเนื่องจากกรณีปัญหาสงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ว่า ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ยังไม่ต้องพูดถึงราคาก๊าซธรรมชาติ ราคาอาหารสัตว์ และปุ๋ย ที่ตบเท้าเรียงแถวกันขึ้นพร้อมๆ กันย่อมกระทบกับเศรษฐกิจไทยและค่าครองชีพประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม
แม้รัฐบาลจะมีแนวทางแก้ปัญหาด้วยการใช้เงินจากกองทุนน้ำมัน ซึ่งติดลบอยู่ 20,000 ล้านบาทแล้วในปัจจุบัน มาอุดหนุนจากกองทุนเพิ่มอีกเป็น 4 บาท/ลิตร แต่ต้องใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์จึงจะกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ครม.เคยอนุมัติไว้ 30,000 ล้านแต่เงินที่ใช้อุดหนุนอยู่จะตกราว 8,000 ล้านบาทต่อเดือนหมายความว่าหากกู้ได้จริงจะจะเหลือเงินอีกเพียง10,000 ล้าน ซึ่งใช้อุดหนุนกองทุนได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น
ส่วนการลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง 3 บาท แต่ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงเพียง 2 บาท อีก 1 บาทนำไปโปะกองทุนน้ำมัน คาดว่าจะทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้รวม 17,100 ล้านบาทในช่วง 3 เดือน หรือเฉลี่ยประมาณเดือนละ 5,700 ล้านบาท ทั้งนี้ มาตรการจะจบลงใน เดือน พ.ค. 65 แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อก็อาจจะต้องยืดมาตรการนี้ออกไปอีก เท่ากับจะมีเลือดไหลออกจากคลังเพิ่มอีกโดยที่จะกระทบกับเป้าการจัดเก็บรายได้และงบประมาณในที่สุด มาตรการทั้ง 2 ส่วนไม่น่าจะเป็นทางออกให้กับรัฐบาลที่จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 30 บาทได้ตลอดรอดฝั่ง
เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ได้เร่งออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือ และพยุงค่าครองชีพให้กับ ชาวนา เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน คนหาเช้ากินค่ำและผู้มีรายได้น้อยโดยด่วน เพื่อบรรเทาภาระที่หนักอึ้งในปัจจุบัน เพื่อช่วยประคองให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ลำบากนี้ไปได้
ปัจจุบันนี้ นอกจากชาวนาและเกษตรกร รวมถึงผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด จะต้องเผชิญกับรายได้ที่ตกต่ำมาตลอด หนี้สินค้างจ่ายจำนวนมากแล้ว ยังต้องเผชิญกับภาวะข้าวของแพง น้ำมันแพง ก๊าซแพง เงินเฟ้อสูง กันจนอ่วม แล้วยังต้องมาเจอกันราคาปุ๋ยที่แพง และ อาหารสัตว์ที่แพงตามภาวะสงครามรัสเซียยูเครนซ้ำเติมอีก ซึ่งน่าจะอยู่กันไม่ได้แล้ว