รมช.มนัญญา ลงพื้นที่เชียงรายติดตามโครงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดให้ "สหกรณ์การเกษตร" หวังใช้ประโยชน์ช่วยเก็บชะลอข้าวและพืชผลการเกษตรในพื้นที่และรักษาเสถียรภาพราคา
รมช.มนัญญา ลงพื้นที่เชียงรายติดตามโครงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดให้ "สหกรณ์การเกษตร" หวังใช้ประโยชน์ฉาง โกดัง ลานตาก ช่วยเก็บชะลอข้าวและพืชผลการเกษตรในพื้นที่ หนุนสหกรณ์ในเชียงรายเพิ่มศักยภาพรวบรวมข้าวเพิ่มปีละกว่า 1.7 หมื่นตันจากเดิมเพียง 2,649 ตัน
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การตลาดและการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตรซึ่งเป็นโครงการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล เพื่ออุดหนุนให้แก่ "สหกรณ์การเกษตร"นำไปจัดสร้างอุปกรณ์การตลาดต่างๆ สำหรับรองรับการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งในโครงการนี้ได้รับเงินจากรัฐบาลมาในปี 2564 จำนวนกว่า 1,600 ล้านบาท โดย "สหกรณ์การเกษตร" ที่เข้าร่วมโครงการจะสมทบเงินเข้ามาเพิ่มร้อยละ 10 เพื่อที่จะไปสร้างอุปกรณ์การตลาดต่าง ๆ ว่าจะเป็นพวกโรงสี โรงคลุม ลานตาก เครื่องอบลดความชื้น หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้เกี่ยวกับการแปรรูปผลผลิตเพี่อเพิ่มมูลค่าและระบบการขนส่งสินค้าเพื่อจำหน่ายสู่ตลาด ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้รับการจัดสรรงบประมาณให้สถาบันเกษตรกร 10 แห่ง มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนศักยภาพของสหกรณ์รวบรวมผล
ผลิตของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ โดยเฉพาะจะเน้นเรื่องการปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือก เพื่อสร้างรายเพิ่มเมื่อมีกำไรจะได้มาปันผลคืนให้กับสมาชิก
โครงการนี้รัฐบาลจัดงบประมาณให้สำหรับสหกรณ์ที่เสนอโครงการมายังกสส.เพื่อพิจารณาคัดเลือก โดยรัฐสนับสนุนร้อยละ 90 ขณะที่สหกรณ์สมทบร้อยละ 10 จากเดิมที่ต้องสมทบร้อยละ 30 ทำให้สหกรณ์เหลือสภาพคล่องอีกร้อยละ20 ใช้หมุนเวียนบริการสมาชิก ไม่ต้องไปกู้จากที่อื่นมาใช้
ดังนั้น การที่ดิฉันและกสส.ได้ต่อรองเพื่อให้รัฐบาลยอมลดสัดส่วนสหกรณ์สมทบเหลือร้อยละ 10 จนสำเร็จ ถือว่าเป็นผลจากการที่พี่น้องสหกรณ์ได้เขียนโครงการดี ๆ เข้ามาให้รัฐเล็งเห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ
ดังนั้น เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จขอให้ทุกสหกรณ์ช่วยกันใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เช่น โกดัง ลานตาก เดิมเกษตรกรต้องนำข้าวไปตากริมข้างทาง กระทบกับความปลอดภัยของคนใช้ถนน ต่อไปนี้ก็มาใช้ลานตากสหกรณ์ และเรามีเครื่องอบลดความชื้นที่จะช่วยทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาที่เป็นธรรมไม่โดนกดราคาเพราะถูกหักค่าความชื้น โครงการนี้จึงเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ นางสาวมนัญญา กล่าว
ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ผลจากโครงการทำให้สหกรณ์มีศักยภาพในการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกจากสมาชิกเพื่อนำมาสีหรือแปรรูปเป็นข้าวสารที่มีคุณภาพเพื่อจำหน่ายและนำกำไรมาปันผลคืนให้สมาชิก
นอกจากนั้น "สหกรณ์" ที่รวบรวมข้าวโพดจะมีการเชื่อมโยงกับฟาร์มปศุสัตว์ทั้งผู้เลี้ยงไก่ โคเนื้อและโคนม ในการรับผลผลิตข้าวโพด เปลือก ซัง ไปทำอาหารสัตว์ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ชนิดต่าง ๆ ด้วย ซึ่งการเก็บชะลอผลผลิตเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากผลผลิตการเกษตร จะออกมาในฤดูเดียวกันพร้อมกัน เช่น ข้าวเปลือก ช่วงเวลาออกมาในลักษณะเป็นข้าวนาปี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมกราคมในช่วงนั้นผลผลิตก็จะมีค่อนข้างมาก
ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ได้ให้สหกรณ์ต่าง ๆ ดำเนินการเก็บชะลอผลผลิตเหล่านี้ในอุปกรณ์การตลาดที่สหกรณ์ได้รับไป ไม่ว่าจะเป็นพวกโรงคลุม ฉาง เครื่องอบลดความชื้นและไซโล ก็เพื่อชะลอผลผลิตไว้ในโกดัง ไม่ให้ออกมาขายพร้อมกันในช่วงต้นฤดู เพราะจะทำให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่ต่ำ จึงต้องมีการเก็บชะลอไว้เพื่อที่จะรอเวลาที่เหมาะสม หรือนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า จะช่วยให้เกิดเสถียรภาพด้านราคามากยิ่งขึ้น
นายสมบัติ ต๊ะยะ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรเวียงชัย จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์แห่งนี้ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 44 ปี ปัจจุบันมีสมาชิก 6,333 ราย มีทุนการดำเนินงานกว่า 645 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (งบกลางปี) จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ เมื่อปี 2561 เพื่อนำไปจัดหาอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็นสำหรับรวบรวมผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ฉาง ขนาด 2,000 ตัน จำนวน 1 แห่ง ทำให้ในปีการผลิต 2564/65 สหกรณ์ได้เปิดรับซื้อข้าวจากสมาชิก 2,649 ตัน คิดเป็นมูลค่า 25 ล้านบาท และสามารถเข้าร่วมโครงการชะลอข้าวเปลือกกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ได้เงินค่าชะลอตันละ 500 บาท ทำให้มีกำไรมาปันผลให้สมาชิก
สำหรับโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวมและการแปรรูปของ
สถาบันเกษตรกรเพื่อรองรับผลผลิตทางการเกษตร ปี 2564 สหกรณ์ได้รับงบประมาณอุดหนุนอีกจำนวน 65 ล้านบาท นำไปจัดซื้อ เครื่องอบลดความชื้น 300 ตัน/วัน จำนวน 1 แห่ง ก่อสร้างโกดัง ขนาด 5,000 ตัน จำนวน 1 แห่งและลานตาก 1,600 ตารางเมตรจำนวน 1 แห่ง ซึ่งปีนี้ มีแผนการรวบรวมข้าวจากสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ 17,500 ตัน แบ่งเป็นข้าวนาปรัง 5,000 ตัน และข้าวนาปี 12,500 ตัน ทำให้สหกรณ์การเกษตรเวียงชัย จำกัด ทำหน้าที่เป็นแก้มลิงเก็บชะลอผลผลิตและตอบสนองความต้องการของสมาชิกสหกรณ์ให้สามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง