เปิดหลักฐานหาความเชื่อมโยง “อดีตเจ้าพ่อโรงนวด-นอมินี” รุกป่า "สวนผึ้ง"
เปิดหลักฐานเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน หาความเชื่อมโยง "อดีตเจ้าพ่อโรงนวด กับ นอมินี" ในคดีรุกป่าสงวนแห่งชาติ ในอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
กรณีอดีตเจ้าพ่อโรงนวดใช้ชื่อลูกสาว และนอมินี ครอบครองที่ดินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี และมีความพยายามแผ้วถางที่ดินเพื่อเตรียมปล่อยให้เช่าและขาย โดยน่าตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการผ่องถ่ายทรัพย์สินเพื่อป้องกันการฟ้องร้องยึดทรัพย์หรือไม่
เอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก. ที่ 2 ผู้ต้องหาบุกรุกป่าเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และในเขตป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 บริเวณบ้านท่าไม้แดง หมู่ที่ 6 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ยื่นต่อเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าพุยาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าบ่อหวี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (สจป.10) ราชบุรี หลังเข้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่า บ้านท่าไม้แดง และรถแบคโฮ 1 คัน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564
จากเอกสารระบุได้ว่าผู้ครอบครองที่ น.ส.3 ก บ้านท่าไม้แดง เป็นนิติบุคคลคือบริษัทเทคโนโลยี แอสโซซิเอท แอนด์ คอนซัลแทนท์ จำกัด โดยมีลูกสาวอดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดรายใหญ่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจคนเดียว โดยบริษัทดังกล่าว มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
เอกสารสิทธิ์ฉบับนี้เดิมทีเป็นของนางปิติพร ครอบครองเมื่อปี 2535 ต่อมาได้มีการโอนสิทธิ์ซื้อขายเปลี่ยนมือจนมาเป็นของบริษัท เทคโนโลยี แอสโซซิเอท เป็นผู้ครอบครอง ตัวแทนเจ้าของที่ดิน ผู้ดำเนินการของบริษัทคือ เสี่ยโบ๊ท และเสี่ยคนนี้ก็ยังมีรายชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัท จึงมีความเชื่อมโยงกับลูกสาวอดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดรายนี้
เสี่ยโบ๊ท ให้ข้อมูลกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า เขาเป็นตัวแทนของบริษัทในการดำเนินการหาผู้เช่าที่ดินพื้นที่สวนผึ้ง เพราะเห็นว่าการปล่อยพื้นที่ว่างเปล่าไม่เกิดประโยชน์ จึงพยายามอยากจะหารายได้ไว้เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเสียภาษีที่ดิน และเขาเองก็ยังทำหน้าที่เป็นทนายให้กับบริษัทด้วย
คำถามคือ เมื่อที่ดินของนิติบุคคลรุกป่าสงวนแห่งชาติ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีกับบุคคลเพียงอย่างเดียว
นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 อธิบายให้ทีมข่าวฟังว่า ในวันที่จับกลุ่มเสี่ยโบ๊ท เขาพยายามอธิบายว่าเป็นตัวแทนของบริษัทในการดำเนินการจัดการสิ่งต่าง ๆ โดยบริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย เจ้าหน้าที่จึงดำเดินคดีกับบุคคลเพียงอย่างเดียว
นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 กล่าวว่า นายโสพณ เป็นผู้รับจ้าง โดยมีนายนิธิภัท เป็นตัวแทนบริษัทมาแสดงตน จึงแจ้งความดำเนินคดีในส่วนของผู้รับจ้างกับผู้แทนบริษัท ขั้นตอนต่อไปขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ในกรณีอาจจะต้องมีการสาวให้ถึงตัวผู้บงการ เพราะบางครั้งมีขบวนการฟอกเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง คดีบุกรุกป่าเป็นคดีที่สำคัญ ที่ทางภาครัฐให้ความสำคัญ
ประเด็นนี้อธิบดีอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม วิเคราะห์ว่าตามกฏหมายแล้วหากเจ้าของที่บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเป็นในนามนิติบุคคลบริษัทย่อมต้องถูกดำเนินคดี ไม่ใช่ดำเนินคดีกับบุคคลเพียงอย่างเดียว
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นที่ดินที่เป็นเอกสิทธิ์ ถ้าในโฉนดมีชื่อของนิติบุคคล โดนสมมติฐานเบื้องต้นต้องถือว่านิติบุคคลเป็นผู้บุกรุก ที่คดีมีปัญหาขณะนี้เพราะเราไม่สามารถบอกได้ว่าที่ดินแปลงไหนอยู่ตรงไหน ทั้งๆที่มีการจำแนกเขตป่าถาวรไว้เยอะพอสมควร
สำหรับ บริษัท เทคโนโลยี แอสโซซิเอท เจ้าของที่ดิน ในบ้านท่าไม้แดง หมู่ที่ 6 ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดนั้น แจ้งประกอบธุรกิจ บริการให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสารและบริการงานพิมพ์ ทำสำเนา หมวดธุรกิจ การให้เช่าและการให้เช่าแบบลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ สำนักงาน มีทุนจดทะเบียนเป็น 1 ร้อยล้านบาท กรรมการ 1 คนผู้มีอำนาจลงนาม 1 คน คือลูกสาวของเจ้าพ่ออาบอบนวดรายใหญ่ และจากข้อมูลที่ทีมข่าวได้รับคือนอกเหนือจากบริษัทนี้ เสี่ยโบ๊ทยังมีชื่อผู้ถือหุ้นร่วมกันกับลูกสาวเจ้าพ่ออาบอบนวดรายใหญ่ 2 บริษัท ซึ่งเสี่ยโบ๊ทจะรับเป็นผู้แทน เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนแต่เพียงผู้เดียว
และที่น่าจับตาคือการใส่ชื่อลูกสาวหรือตัวแทนเป็นผู้ถือหุ้นของอดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดรายใหญ่นี้ อาจป้องกันการถูกยึดทรัพย์ กรณีเป็นหนี้ หรือถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินทางแพ่ง ซึ่งปัจจุบันอดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินทั้งทางแพ่ง และอาญาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากกระทำความผิดฐานค้าประเวณีและค้ามนุษย์
ดังนั้น การเข้าไปปรับพื้นที่เพื่อประกาศขาย จึงน่าจะเป็นความพยายามผ่องถ่ายทรัพย์สิน เพื่อให้พ้นจากการบังคับคดี อายัด หรือถูกยึดทรัพย์ในคดีฟอกเงินหรือไม่