"ลิเวอร์พูล" เสมอกับ "เชลซี" 0-0 ในช่วงเวลาปกติ 90 นาที ซึ่งต้องต่อเวลา 120 นาที แต่ก็ยังเสมอกัน 0-0 ปิดท้ายด้วยการดวลลูกที่จุดโทษ ก่อนหงส์แดง คมกว่าคว้าชัย สิงโตน้ำเงินคราม 11-10 ในศึก ฟุตบอล "คาราบาว คัพ" อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22
ฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ รอบชิงชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ "เชลซี" ทีมอันดับ 3 ของตาราง หลังจากผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการผ่าน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในรอบรอง ด้วยสกอร์รวมสองเกม 3-0 โดยเข้ามาพบกับ "ลิเวอร์พูล" ทีมอันดับ 2 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ผ่านรอบรองชนะเลิศ ด้วยการเอาชนะ อาเซน่อล ด้วยสกอร์รวมสองเกม 2-0
โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีมในเกมนี้
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ , เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์
ลิเวอร์พูล : เคลมิน เคลเลเฮอร์ , เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , มาติป , ฟาน ไดจ์ค , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ฟาบินโญ่ , นาบี เคอิต้า , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ,ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ
เริ่มครึ่งแรก เชลซี ได้โอกาสลุ้นประตูขึ่นนำก่อน ในนาที 4 จากจังหวะ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จ่ายบอลเข้าเขตโทษก่อนเป็น เมสัน เมาท์ ได้ตวัดยิงจ่อ ๆ บอลติดเซฟ เคามิน เคลเลเฮอร์ ถัดมา นาทีที่ 11 ลิเวอร์พูล ได้จังหวะสวนกลับบ้าง ก่อนจะเป็น หลุยส์ ดิอาซ ยิงบอลติดบล็อก นาที 21 หงส์แดง ได้ลุ้นจาก ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไหลบอลให้โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงหลุดหรอบ ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีกครั้ง นาทีที่ 30 จาก นาบี เคอิต้า ยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ ไปติดเซฟ ก่อนซาดิ โอมาเน่ ตามซ้ำ แต่ก็ยังเป็นเซฟของ เมนดี้ โดยเวลาที่เหลือ จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมเสมอ 0-0
กลับเข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี ได้ลุ้นก่อน นาทีที่ 49 จากเมสัน เม้า ได้มีโอกาสหลุดเดียว ก่อนยิงบอลชนเสา ถัดมานาที 64 จังหวะเอดูอาร์ เมนดี้ จ่ายบอลเสีย เป็น ลิเวอร์พูล ตัดบอลได้ก่อนเป็น โมฮษเหม็ด ซาลาห์ หลุดไปชิบบอล แต่เป็น ติอาโก้ ซิลวา ตามทเคลียร์ ไว้ได้ นาทีที่ 66 หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ประตูจากการโหม่งเข้าไปของ โจเอล มาติป แต่กรรมการเช็ก VAR ให้เป็นลูกล้ำหน้าจากจังหวะ ฟาน ไดจ์ค อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าที่คอยขวางผู้เล่นเชลซี โดยช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นประตู จาก หลุยส์ ดิอาซ แต่ยิงติดเซฟ อีกครั้ง เวลาที่เหลือ ทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที และจบ 120 ทั้งสองทีมยังเสมอกันที่สกอร์ 0-0
โดยการดวลจุดโทษ ลูกแรกเริ่มจาก ฝั่งลิเวอร์พูล เป็น เจมส์ มิลเนอร์ ยิงขึ้นนำ 1-0 ฝั่ง เชลซี มากอส อลอนโซ่ ยิงเข้าไปตีเสมอ 1-1 ต่อมา ฟาบินโญ่ คนที่สองของลิเวอร์พูล ยิงเข้าไปให้ทีมนำ 2-1 คนที่สองของเชลซี โรเมลู ลูกากู ยิงเข้าไปตีเสมอเป็น 2-2 ต่อมา เวอจิล ฟาน คนที่สาม ของลิเวอร์พูลยังไม่พลาดยิงให้ทีมขึ้นนำ 3-2 คนที่สามของเชลซี ไค ฮาแวร์ตซ์ ตามยิงตีเสมอ 3-3 คนที่สี่ของลิเวอร์พูล เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังไม่พลาดยิงให้ทีมนำ 4-3
คนที่สี่ของเชลซี รีส เจมส์ ยิงตีเสมอ 4-4 คนที่ห้าของลิเวอร์พูล เป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงให้ทีมนำอีกครั้งเป็น 5-4 คนที่ห้าของเชลซี จอจินโญ่ ไม่พลาดตีเสมอ 5-5 คนที่หกของลิเวอร์พูล ดิโอโก้ โชต้า ยิงเข้าไปทีมออกนำ 6-5 คนที่หกของเชลซี อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยิงเข้าไปตามตีเสมอ 6-6 คนที่เจ็ด ของลิเวอร์พูล เป็น ดิวอร์ก โอริกี้ ซัดให้ทีมออกนำ 7-6 ทางฝั่งเชลซีคนที่เจ็ด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซัดไม่พลาดตีเสมอ 7-7
คนที่แปดของลิเวอร์พูล แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยิงให้ทีมนำ 8-7 คนที่แปดของเชลซี ติโม แวร์เนอร์ ตามตีเสมอ 8-8 คนที่เก้าของลิเวอร์พูล ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิงให้ทีมขึ้นนำ ก่อนเป็น คนที่เก้าของเชลซี ติอาโก้ ซิลวา ยังไม่พลาดตีเสมอ 9-9 คนที่สิบของลิเวอร์พูล โคนาเต้ ยิงให้ทีมขึ้นนำ 10-9 ฝั่งเชลซีคนที่สิบ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ยิงตีเสมอ 10-10 คนที่สิบเอ็ดของลิเวอร์พูล เคลมิน เคลเลเฮอร์ ยิงขึ้นนำ 11-10 ก่อนเป็นฝั่งเชลซีคนที่สิบเอ็ด เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ประตูสำรองจะยิงข้ามคาน จบเกม เป็นฝั่ง ลิเวอร์พูล เอาชนะจุดโทษ เชลซี 11-10
ทั้งนี้หลังจบเกม "ลิเวอร์พูล" กลายเป็นทีมที่สามารถคว้าแชมป์ "ลีก คัพ" หรือ "คาราบาว คัพ" ได้ในฤดูกาล 2021-22 คว้าแชมป์รวม 9 สมัย 1980 , 1981 , 1982 , 1983 , 1994 , 2000, 2002 , 2011 และ 2021
CREDIT PHOTO : Twitter@ChelseaFC , Twitter@LFC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง