กรมปศุสัตว์เร่งช่วยเหลือผู้เลี้ัยงสัตว์ภาคใต้ที่ถูกน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วม 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะล่าสุด 5 อำเภอ ในจังหวัดนราธิวาส ที่มีกระแสน้ำไหลหลากรุนแรง บางพื้นที่ระดับน้ำท่วมสูงถึงเอว ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยายังออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ 
 


นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์  ได้สั่งการด่วนลงไปในพื้นที่  มอบหมายให้ นายสามารถ อ่อนสองชั้น ปศุสัตว์จังหวัดนราธิวาส , นายจักรพงษ์ ขานโบ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นราธิวาส , นายสมพงค์ เพ็ชรพรหม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์นราธิวาส , นายต้นพงษ์ คำพลงาม หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นราธิวาส สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ประสบอุทกภัยฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการช่วยเหลือเกษตรกร สนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ และรักษาพยาบาลสัตว์ในพื้นที่

โดยชุดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนราธิวาส ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตาม  เยี่ยมเยียน ให้คำแนะนำ และสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ พร้อมแร่ธาตุและเวชภัณฑ์ ณ กลุ่มเลี้ยงโคบ้านทำเนียบ-รามา หมู่ที่ 6 ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เกษตรกร จำนวน 10 ราย

รวมความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตวในจังหวัดนราธิวาส จำนวน 5 อำเภอ  20 ตำบล 29 หมู่บ้าน 3 ชุมชน เกษตรกร 344 ราย จำนวนโค 2,142 ตัว จำนวน หญ้าแห้ง 840 ฟ่อน  (16,800 กิโลกรัม) ดังนี้

          1. อำเภอเมือง จำนวน  1 ตำบล 1 หมู่บ้าน เกษตรกร 10 จำนวนโค 69 ตัว / หญ้าแห้ง จำนวน  400 กิโลกรัม
          2. อำเภอระแงะ จำนวน  4 ตำบล 5 หมู่บ้าน เกษตรกร 25 ราย จำนวนโค 168  ตัว / หญ้าแห้ง จำนวน  1,000 กิโลกรัม
          3. อำเภอยี่งอ จำนวน  4 ตำบล 4 หมู่บ้าน เกษตรกร 68 ราย จำนวนโค 560  ตัว / หญ้าแห้ง จำนวน  3,400 กิโลกรัม
          4. อำเภอเจาะไอร้อง จำนวน  1 ตำบล 4 หมู่บ้าน เกษตรกร 48 ราย  จำนวนโค  472  ตัว / หญ้าแห้ง จำนวน  4,000 กิโลกรัม
          5. อำเภอสุไหงโก-ลก จำนวน  10 ตำบล 15 หมู่บ้าน 3 ชุมชน  เกษตรกร 193 ราย จำนวนโค 873 ตัว / หญ้าแห้ง จำนวน  8,000 กิโลกรัม
 
          สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสายด่วนกรมปศุสัตว์ 061-479-1999 

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกา ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณจังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้