"ยูเครน" บอกพร้อมเจราจา "รัสเซีย" ยุติการโจมตี

หลังถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักและมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่าร้อยคน  ท่ามกลางเสียงประณามที่พุ่งเป้าไปยังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แต่ก็ยังไม่มีชาติใดร่วมส่งกองกำลังไปช่วยสู้รบกับยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าววานนี้ว่า ยูเครน
ไม่ได้กลัวรัสเซีย ไม่ได้กลัวการเจรจา และควรมีการเจรจาเพื่อยุติปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย สำหรับประเด็นสถานะชาติเป็นกลางก็ยินดีเจรจา เพียงแต่ต้องการหลักประกันจากชาติที่สามเรื่องความมั่นคงของยูเครน เพราะยูเครนยังไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การนาโต จึงไม่มีหลักประกันใด ๆ 

เขายังกล่าวเชิงตัดพ้อว่า เขาได้พูคคุยกับผู้นำ 27 ชาติในยุโรป แต่ไม่ได้รับคำตอบว่าจะให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโตหรือไม่  ทำให้รู้สึกว่ายูเครนถูกทอดทิ้งให้ต่อสู้กับ
รัสเซียโดยลำพัง หลังจากนาโตไม่กล้าให้หลักประกันใด ๆ แก่ยูเครน

คำกล่าวนี้มีขึ้นหลังจาก นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงความพร้อมเจรจากับประธานาธิบดียูเครน โดยพุ่งเป้าว่ายูเครนต้องมีสถานะชาติเป็นกลาง และให้สัญญาว่าจะไม่ติดตั้งอาวุธในยูเครน ซึ่งทั้งสองข้องนี้จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้บรรลุเป้าหมายว่า ยูเครนเป็นดินแดนปลอดกิจกรรมทางทหารและลัทธินาซี และไม่มีสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซียและประชาชน

นายดมิทรี ยังย้ำว่า รัสเซียพร้อมเจรจาก็ต่อเมื่อผู้นำยูเครนพร้อมเจรจาเช่นกัน โดยประธานาธิบดีปูตินจะเป็นผู้กำหนดเวลาการเจรจา  

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้ออกแถลงการณ์ว่า จีนสนับสนุนให้รัสเซียและยูเครนหาทางออกด้วยการเจรจา โดยนายสี จิ้น ผิง ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ประธานาธิบดีปูติน ว่าควรต้องยุติแนวคิดแบบยุคสงครามเย็น แล้วหันมาให้ความสำคัญและความเคารพต่อความมั่นคงที่ทุกชาติเป็นห่วง ด้วยการจัดตั้งกลไกความมั่นคงในยุโรปที่มีสมดุล มีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืน ผ่านการเจรจา

ขณะที่ปูตินชี้แจงสาเหตุที่ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน ซึ่งถูกระบุในแถลงการณ์ของทางการจีน ว่าเป็นเพราะสหรัฐฯ และนาโต ไม่สนใจความเป็นห่วงด้านความมั่นคงของรัสเซียมาเป็นเวลานาน

ปูติน บอกกับ สี จิ้น ผิง ทางโทรศัพท์ด้วยว่า รัสเซียพร้อมที่จะพูดคุยในระดับสูงกับยูเครน ซึ่งจีนเองก็พยายามที่จะรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย พร้อมๆ กับรักษาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับทางยุโรป