"กองทัพเรือ" นรข.หนองคาย จับไอซ์-ยาอียา เคผสมกาแฟ ริมแม่น้ำโขง มูลค่า 12 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.พ. 65 "กองทัพเรือ" สถานีเรือหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง หนองคาย "นรข.หนองคาย" น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย , น.ท.สุรไกร รัตนกุสุมภ์ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย , พ.ต.อ.พิทักษ์ วิริยะ นักวิทยาศาสตร์สัญญาบัตร 4 พิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองคาย , พร้อมตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง 

ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดหลายรายการ ประกอบด้วย ไอซ์ 2 กิโลกรัม , ยาอี 4 กิโลกรัม , ยาเค 6 กิโลกรัม , กาแฟผสมยาอีบรรจุซองสำเร็จรูป จำนวน 200 ซอง เครื่องดื่มแบบชง และซองบรรจุถั่วเน่า จากประเทศจีน ภายในบรรจุยาอี จำนวน 100 กรัม มูลค่ารวมประมาณ 12 ล้านบาทเศษ 

ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าว น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย กองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ทวีความรุนแรงในหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดกองทัพเรือ เร่งดำเนินการปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศอย่างเต็มรูปแบบ  

 

โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ซึ่งปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติด มีความพยายามที่จะลักลอบนำยาเสพติด เข้ามาภายในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตามพื้นที่แนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ซึ่งในครั้งนี้ น.ท.สุรไกร รัตนกุสุมภ์ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย ได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ บริเวณช่วงท่าน้ำวัดมีชัยท่า ถึง พระธาตุหล้าหนอง เขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงได้สนธิกำลังเข้าดักซุ่ม เพื่อนทำการตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำความผิด  

จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 22 ก.พ.65 เจ้าหน้าที่พบเรือกีบเพลายาว มีชาย 2 คน นั่งมาในเรือ เข้ามาเทียบเรือ บริเวณริมตลิ่งวัดมีชัยท่า จากนั้นได้โยนกระเป๋าเป้ จำนวน 2 ใบ ขึ้นมาทิ้งไว้บนตลิ่ง ขณะเดียวกันมีชายอีกคนหนึ่งวิ่งมารับกระเป๋า

เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด และมีโขดหินจำนวนมาก ทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งหมดวิ่งหลบหนีไปได้ โดยสามารถยึดกระเป๋าเป้ดังกล่าว มาทำการตรวจสอบ 

จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายยาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ใช้น้ำยาเคมีตรวจสอบ พบว่า ทั้งหมดเป็นยาเสพติด คาดว่าจะเป็นการเตรียมนำเข้าพื้นที่ตอนใน และจะมีการลำเลียงล็อตใหญ่เข้ามาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง จึงต้องวางกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มตามแนวชายแดนและกระจายกำลังในจุดเสี่ยงสำคัญต่อไป "หน่วยเรือ"