ตามรวบสาว "เปิดบัญชี" แก๊งโรแมนซ์สแกม ตุ๋นเหยื่อโอนเงินกว่าล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ศราวุฒิ บวรกิจประเสริฐ รอง ผบก.ปอท., 
ว่าที่ พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปอท., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ และ พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ 
รอง ผกก.2 บก.ปอท. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม  พ.ต.ท.ธนะ ว่องทรง, พ.ต.ต.หญิง สินีนาฏ เชิดชูตระกูลทอง,พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท.

ร่วมกันจับกุม น.ส.ธนาภรณ์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1353/2564 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง" 

จับกุมตัวได้ที่ ม.10 ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี

           เนื่องจากเมื่อประมาณเดือนปี พ.ศ.2558 ผู้เสียหายติดต่อพูดคุยกับชายชาวต่างชาติ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าชื่อ นาย ชาร์ล วิลสัน เป็นคนสัญชาติอเมริกา ทำงาน เป็นวิศวกร ปิโตรเลียม ที่ประเทศอเมริกา  จะมาอยู่ที่เมืองไทย อยากให้ผู้เสียหาย ซื้อบ้าน ในราคา 11 ล้านบาท ซึ่งจะส่งเงินทางพัสดุมาให้ ต่อมาได้มีตัวแทนจากบริษัทขนส่งติดต่อทา ว่าค่าพัสดุค้องเสียภาษี ค่าทำเอกสาร และค่าดำเนินการ  ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไป 8 ครั้ง รวม 1,048,500 บา จนกระทั่งเชื่อว่า ถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเข้าร้องทุกข์ ต่อ บก.ปอท.ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่า 
น.ส.ธนาภรณ์ฯ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ ม.10 ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ น.ส.ธนาภรณ์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับปรากฏตัวอยู่ จึงได้แสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การรับว่าเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารจริง 
แต่ในช่วงที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้คบหาเป็นแฟนอยู่กับชายชาวต่างชาติเชื้อสายแอฟริกัน และได้ให้แฟนยืมบัตรเอทีเอ็มไป จากนั้นไม่ได้รับบัตรเอทีเอ็มคืนอีกเลย

ตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่าน ควรเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัว ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับบุคคลแปลกหน้าบนโลกออนไลน์ หรือหากจะพูดคุยก็ควรตรวจสอบข้อมูลหรือรูปภาพของบุคคลที่คุยด้วยทุกครั้ง ว่านำภาพบุคคลใดมาแอบอ้างหรือไม่ มีตัวตนจริงหรือไม่ นอกจากนี้ ไม่ควรไว้ใจหรือเชื่อใจบุคคลอื่นง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งรู้จักกันทางสื่อสังคมออนไลน์ หากพบพฤติกรรมในลักษณะ เช่น เมื่อพูดคุยกันไปสักพักจะมีการพูดให้ความหวัง และอยากจะส่งของมาให้ โดยจะอ้างว่าเป็นเงินสด หรือสิ่งของมีค่าต่างๆ แต่กลับต้องจ่ายค่าธรรมเนียมและภาษี ให้สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ