พม่า-กะเหรี่ยง ปะทะกันอีก ยังไม่ส่งผลถึงชาวไทย

วันนี้ นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านไม้สะเป่ หมู่ 9 และ บ้านดอยแสง หมู่ 10 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าได้ยินเสียงการปะทะกันระหว่างทหารพม่า กับ ทหารกะเหรี่ยงคะยา บริเวณฐานทะนาควาย ห่างจากชายแดนไทยตรง ข้ามบ้านไม้สะเป่ ประมาณ 5 กม. โดยการสู้รบดังกล่าวมีเสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่อง นานนับชั่วโมง

ทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนได้สั่งการให้ผู้นำชุมชนจัดเวรยามคอยป้องกันและระมัดระวังคนแปลกหน้าที่จะเข้ามาในหมู่บ้าน รวมถึงห้ามราษฎรไทย เข้าไปหาของป่าบริเวณติดแนวชายแดนด้านเมียนมาอย่างเด็ดขาด 

การสู้รบระหว่างทหารพม่า กับ ฝ่ายต่อต้านทหารกะเหรี่ยงคะยา ที่ร่วมกับกลุ่ม PDF ปะทะกันที่บริเวณเมืองโมเบีย ใกล้กับเมืองลอยก่อว์ โดยทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างหนัก โดยทหารพม่าได้ใช้เครื่องบินโจมตี สนับสนุนการรบอย่างต่อเนื่องเช่นกัน



การสู้รบที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราษฎรในเมืองดังกล่าวกว่า 1,000 คน  พากันหลบหนีออกจากหมู่บ้าน ทำให้ทหารกะเหรี่ยงคะยาและทหาร PDF ตัองจัดกำลังส่วนหนึ่งไปคอยดูแลสัตว์เลี้ยงของราษฎรในพื้นที่ ท่ามกลางการรบอย่างดุเดือด

ทั้งนี้จากสถานการณ์สู้รบในเมืองลอยก่อว์ เมืองโมเบีย เมืองฟูลโซ่ว์ และ เมืองดีมอร์โซว์ ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมต่อเนื่องถึงปัจจุบัน มีชาวคะยา กว่า 100,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ และพากันหนีออกจากบ้านเรือนของตัวเอง

ส่วนหนึ่งหนีขึ้นไปในรัฐฉาน เมืองสี่แส่ง ในพื้นที่ควบคุมของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มปาโอ แต่อีกส่วนหนึ่งกว่า 70  เปอร์เซ็นต์ หลบหนีลงมาด้านทิศใต้มุ่งหน้าสู่แนวชายแดนไทย ในเขตยึดครองของ ทหารกะเหรี่ยงคะยา ตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันได้รับความลำบาก เนื่องจากขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค รวมถึงเสื้อผ้า

สมาชิกกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา ระบุว่า สาเหตุที่ประชาชนชาวคะยาหนีเข้าหาและอาศัยอยู่ติดแนวชายแดนไทย เนื่องจากทหารพม่าไม่กล้าใช้อากาศยานโจมตี เพราะเกรงใจฝ่ายไทย แต่หากอาศัยอยู่ชั้นในลึกจากแนวชายแดนไทยไปแล้ว มักถูกโจมตีบ่อยครั้ง