ชำแหละไส้ใน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" 18มงกุฎ ไต้หวัน-จีน สู่ถังเงินที่ สีหนุวิลล์

ช่วงเช่าที่ผ่านมา พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ได้เดินทางเข้าพบผู้บริหารเครือเนชั่น โดยมีนายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนายบากบั่น บุญเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด และบรรณาธิการอำนวยการ ฐานเศรษฐกิจ ให้การต้อนรับ โดยได้มีการเน้นย้ำ ถึงการแพร่ระบาดของกลุ่มมิจฉาชีพ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. กล่าวถึงการแพร่ระบาดของ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนภายในประเทศ โดยระบุว่า แก๊งคอลเซนเตอร์ มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มมิจฉาชีพในประเทศใต้หวัน ซึ่งได้มีการสร้างเหตุการณ์ภาพลวงต่างๆ เพื่อไปหลอกคนจีน

จากนั้นคนจีน ก็มาหลอกคนจีนด้วยกันเอง จนกระทั่งทางการประเทศจีน ได้มีการระดมกวาดล้างกันอย่างจริงจังที่เมืองตงก่วน ซึ่งแก็งคอลเซนเตอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในประเทศจีน ปัจจุบันมีวิวัฒนาการ และย้ายเข้าไปอยู่ในกัมพูชา เนื่องจากมีระบบอินเตอร์เน็ตที่ดี เหมาะแก่การทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการใช้ระบบโทรศัพท์ voip internet protocal อยู่ในสีหนุวิลล์ และพนมเปญ 

ซึ่งในกระบวนการหลอกลวงของแก็งคอลเซนเตอร์นั้น จะมีการสร้างสตอรี่ ในการหลอกลวงคนขึ้นมา ซึ่งเป็นแนวคิดที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจคน ทำให้คนหลงเชื่อ ณ ปัจจุบันจะสร้างสตอรี่ โดยมีการอ้างว่าเป็นบริษัทิขนส่ง แล้วระบุว่า เหยื่อส่งของผิดกฏหมาย ซึ่งจะมีการขายสตอรี่ในการหลอกลวงนี้ให้ระหว่างแก็งคอลเซ็นเตอร์ด้วยกันเอง เป็นแฟรนไชส์ เพื่อให้นำไปหลอกคนต่อ นอกจากนี้ยังมีระบบเทรน หรือฝึกคนที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ให้ทำงานเป็นไปตามระบบที่ตั้งไว้

โดยคนที่ไปทำงานนั้น มีทั้งที่ถูกหลอกไป และสมัครใจจะไปทำงานไปหาเงิน ซึ่งเส้นทางการฟอกเงิน หลังจากหลอกเงินจากเหยื่อไปได้แล้ว จะออกไปทางบัญชีม้า ซึ่งจะมีการส่งต่อกันเป็นทอดๆ ตั้งแต่ 4 บัญชี ไปจนถึง 10 บัญชี หลังจากนั้นจะมีการถอนออกไปเป็นเงินสด หรือแปลงเป็นเหรียญคริปโตคอเรนซี่ แล้วโอนเข้าไปใน exchange ต่างประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการฟอกเงินในทางไหนก็แล้วแต่ เส้นทางการเงินในที่สุดแล้ว จะไปจบที่ถังเงินใหญ่เดียวกัน ที่อยู่ในสีหนุวิลล์ และพนมเปญ 
 

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวด้วยว่า คำถามใหญ่จากประชาชน ณ วันนี้ คือการจัดการกับตัวการใหญ่ ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา ทั้งใน สีหนุวิลล์ และพนมเปญ ซึ่งที่สำนักงานตำตรวจแห่งชาติ ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมกับได้ประสานไปยังสถานทูตจีน เพื่อขอความร่วมในการสืบสวนจับกุมตัวการ ซึ่งเป็นแก็งชาวจีน ที่กระจายอยู่ภายในประเทศกัมพูชา

ซึ่งอุปสรรคในการทำงานคือ แก็งคอลเซนเตอร์ อาศัยอยู่ในกัมพูชา ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจอธิปไตยของไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ไม่มีอำนาจการจับกุมในพื้นที่ของประเทศกัมพูชา ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับประเทศกัมพูชา ในการทลายแก็งคอลเซนเตอร์เหล่านี้