คงชีพ ยัน บิ๊กป้อม ไม่เกี่ยว "คดีค้ามนุษย์"- โรม จี้รัฐจริงใจ

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายในสภาโดยพยายามเชื่อมโยงว่า มีนายตำรวจทีมงาน พล.อ.ประวิตร โทรมาสั่งให้ประกันตัว พล.ท. มนัส คงแป้น ผู้ต้องหา "คดีค้ามนุษย์" โดยยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร เคยย้ำว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากมีชื่อบุคคลตามกล่าวอ้างดังกล่าว หรือมีข้อมูลผู้อยู่เบื้องหลังและผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ขอให้เปิดเผยหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดออกมา เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด 

ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการสานต่อแก้ปัญหา"การค้ามนุษย์" อย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ จนสามารถได้รับการจัดระดับให้เป็นประเทศที่เห็นถึงความพยายามในการแก้ปัญหา"การค้ามนุษย์" (เทียร์ 2 ) ในปี 61  

นอกจากนี้ พล.อ. ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ที่ร่วมกันใช้โอกาสนี้สร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ในสังคมถึงปัญหา"การค้ามนุษย์" ซึ่งถูกปล่อยปละละเลยและมองผ่านมานาน พร้อมย้ำว่า ความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน การช่วยเหลือมีส่วนร่วมและให้กำลังใจกันและกัน จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหา"การค้ามนุษย์"ที่ยั่งยืนร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อเร่งค้นหา คุ้มครองและให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เปราะบางและยังตกค้างจากการถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ออกมาโดยเร็ว
 

โรม  จี้รัฐจริงใจแก้ "ค้ามนุษย์" ตั้งบุคคลที่สังคมยอมรับเป็นคณะกรรมการ  พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติม หากรัฐบาลต้องการ

นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเนื้อหาการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในประเด็นเรื่อง"การค้ามนุษย์" ว่าหลังจากจบการอภิปรายจนถึงวันนี้ตนยังไม่ได้รับคำอธิบายที่น่าสนใจและคำอธิบายของรัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่ต่างจากคำตอบเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมาที่ขอให้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ กลับประเทศไทยเพื่อสู้คดี โดยรัฐบาลควรมีสัญญาณที่ดีกว่านี้ เช่น ควรกลับไปพิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ใดรู้บทบาทหน้าที่และ"การค้ามนุษย์" และขัดขวางการทำงานของ พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งหากรัฐบาลต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมตนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลต่าง ๆ แก่รัฐบาล 

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ในประเด็น "การค้ามนุษย์" ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลไม่มีการต่อยอดและนำสู่การขยายผล หากรัฐบาลมีความจริงใจในการปราบปรามเรื่อง "การค้ามนุษย์" รัฐบาลต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาในประเด็นที่ตนได้อภิปรายไว้ โดยแต่งตั้งบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือเข้ามาเป็นกรรมการ แต่ขณะนี้รัฐบาลกลับยืนกรานว่าได้ดำเนินการไปแล้ว และขอให้ พล.ต.ต.ปวีณ กลับประเทศไทย ซึ่งในประเด็นนี้ใครจะกล้ากลับในเมื่อประเทศไทยยังมีเรื่องการอุ้มหาย และการเสียชีวิตของข้าราชการน้ำดี หาก
คณะกรรมการที่ประเทศไทยมีอยู่และสามารถนำพาประเทศให้หลุดพ้นจาก"การค้ามนุษย์"ได้มองว่าประเทศไทยจะไม่กลับไปสู่ Tier 2 Watch List ซึ่งเป็นที่ยืนยันได้แล้วว่าคณะกรรมการที่มีอยู่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 

ทั้งนี้ มีหลายช่องทางให้ดำเนินการ เช่น ผ่านช่องทางกรรมาธิการ ซึ่งสามารถใช้เพื่อสืบหาข้อมูลและความผิดปกติได้แต่ยอมรับว่าช่องทางกรรมาธิการไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ในบรรยากาศที่ปลอดภัย ซึ่งหากจะเริ่มต้นกระบวนการที่ปลอดภัย ส่วนตัวมองว่าอาจเริ่มต้นที่การเลือกตั้งใหม่ และต้องไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้