ข่าว

รวบแล้ว "หนุ่มหัวร้อน" ทำร้าย "ลุงโชเฟอร์แท็กซี่" กลางถนนรัชดาซอย7

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจรวบแล้ว "หนุ่มหัวร้อน" ทำร้าย "ลุงโชเฟอร์แท็กซี่" กลางถนนรัชดาภิเษก ซอย 7 ขณะที่เหยื่อบอก อยากอยู่แบบสงบสุข อภัยได้ก็ให้อภัย เคราะห์ดีที่ผู้ก่อเหตุไม่มีอาวุธ

สืบเนื่องจากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดิโอ. เหตุการณ์ที่ "หนุ่มหัวร้อน" ทำร้ายคนขับ "ลุงโชเฟอร์แท็กซี่" โดยในรถมีลูกของผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวนั่งอยู่ 2 คน และเมื่อไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความเนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นภายในรัชดาภิเษกซอย 7 แยก 13 เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา



รวบแล้ว  "หนุ่มหัวร้อน" ทำร้าย "ลุงโชเฟอร์แท็กซี่" กลางถนนรัชดาซอย7


 

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นางเพลิน (สงวนนามสกุล) อายุ 31 เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังกดเงินอยู่ที่ตู้เอทีเอ็ม. เมื่อกดเสร็จเรียบร้อย ก็เรียกรถแท็กซี่ และให้ลูกสองคนเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่ก่อน โดยเอารถเข็นไว้ข้างเบาะคนขับ จากนั้นชายที่ปรากฎในคลิป ก็ลงจากรถจักรยานยนต์ แล้วเข้ามาด่าโชเฟอร์แท็กซี่ และเอามือทุบรถ ตนจึงร้องขอให้หยุด เพราะในรถมีเด็กอยู่ 2 คน 

 

ซึ่งผู้ก่อเหตุก็พยักหน้า แต่ไม่หยุด และได้เดินอ้อมไปฝั่งคนขับ พยายามจะเปิดประตูรถ ตนจึงตัดสินใจเข้าไปในรถ และให้โชเฟอร์ขับรถออกไป ยังไม่ทันที่จะขับออกไป ผู้ก่อเหตุก็เปิดประตูฝั่งคนขับ และทำร้ายร่างกายโชเฟอร์ ตนตกใจจึงรีบอุ้มลูกลงมาจากรถ และนำรถเข็นออกมา

 

 

เมื่อตั้งสติได้จึงถ่ายคลิป ซึ่งผู้ก่อเหตุก็พยายามทำร้ายโชเฟอร์อยู่ตลอดเวลา กระทั่งมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้ามปราม ทั้งนี้ ตนไม่ได้รับอันตราย แต่มีผลกระทบต่อจิตใจลูกสาว ทำให้ลูกสาวหวาดผวา และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา กลัวคนเข้ามาทำร้ายอีก ซึ่งลูกสาวตนอายุเพียง 7 ขวบ กับ 2 ขวบ 



รวบแล้ว  "หนุ่มหัวร้อน" ทำร้าย "ลุงโชเฟอร์แท็กซี่" กลางถนนรัชดาซอย7

 

นางเพลิน กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ จึงได้ตัดสินใจไม่ขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าว และรอดูว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป โดยลูกของตนได้บอกให้ไปเรียกแท็กซี่ที่อื่น แต่ก็ยังกลัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนได้เข้าแจ้งความเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. แต่ตำรวจบอกว่า แท็กซี่ไม่ได้แจ้งความ ตนจึงต้องการแจ้งความแทน เพราะมีหลักฐานเป็นคลิปวิดิโอ.

 

อยากรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ตนไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก รวมถึงอยากได้ภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางตำรวจไม่สามารถรับแจ้งความได้ เพราะตนไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง และผู้ก่อเหตุไม่ได้เข้ามาทำร้ายตน ทั้งที่ตนอยู่ในเหตุการณ์ และลูกของตน ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด เพียงแค่บอกว่าถ้ามีคนมาแจ้งความ จะนำคลิปของตนไปเป็นหลักฐาน
 

 

นางเพลิน เปิดเผยอีกว่า ต่อมาทราบว่า ลุงโชเฟอร์แท็กซี่ ได้เข้าแจ้งความ และรู้สึกดีใจมากที่ตำรวจ ได้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยากถามว่าทำไมไม่พูดกันดีๆ หากตนผิดจริง ก็ยอมรับ ทำไมถึงเกรี้ยวกราดขนาดนี้ อยากขอบคุณสื่อและโซเชียล ที่ตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาได้ ทั้งนี้อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่า ให้ใจๆ เย็นมากกว่านี้ ไม่อยากให้ทำแบบนี้กับใครอีก ไม่อยากให้มาสำนึกผิดทีหลังและนำกระเช้ามาไหว้ทีหลัง หากทำผิดก็ต้องยอมรับผลการกระทำ การนำกระเช้ามา กราบไหว้แล้วบอกว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบนั้น ตอนมองว่าเป็นเรื่องตลก



ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. นายวิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 42 โชเฟอร์แท็กซี่คันเกิดเหตุ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.พงศธร วงศ์ธรรมนันท์ สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีกับ นายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ โดย "ลุงโชเฟอร์แท็กซี่ที่ถูกทำร้าย เปิดเผยว่า ขณะที่ขับรถมารับผู้โดยสารตามปกติ และเด็กกำลังขึ้นไปนั่งในรถ จากนั้นผู้ต้องหา ก็มาโวยวาย ด่าว่าตนเอง ว่าไม่เปิดไฟเลี้ยว และด่าทออย่างรุนแรง จากนั้นก็ทุบรถ ทำให้แม่ของเด็กตกใจ และขอร้องว่า มีเด็กอยู่ในรถ และได้นำเด็กออกไปก่อน 

 

ขณะนั้น ตนพยายามพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ "หนุ่มหัวร้อนแต่สุดท้ายผู้ก่อเหตุ ก็เปิดประตูรถ และทำร้ายร่างกายทันที แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรไป ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แค่ช้ำบริเวณลำตัว ตอนแรกไม่แจ้งความ เพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว อยากอยู่แบบสงบสุข อะไรที่ให้อภัยได้ก็ให้อภัย ขณะนั้นตนก็ตกใจ เคราะห์ดีที่ผู้ก่อเหตุไม่มีอาวุธ ซึ่งตนไม่โกรธเคืองเขาแต่อย่างใด แต่ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใคร อยากให้ปรับปรุงตัวใหม่ มีสติ จะไปหาเรื่องใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อยากให้พูดคุยกันก่อน โดยในวันนี้มาแจ้งความในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ