ข่าว

โต้งานวิจัย “บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยเลิกบุหรี่” มั่วนิ่ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า" ECST โต้ผลการศึกษาจากการสังเกตการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร บีเอ็มเจ มีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด ทำให้ข้อสรุปไม่ถูกต้อง ชี้อังกฤษ ยังยืนยันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยเลิกบุหรี่ไฟฟ้า

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนกลุ่มลาขาดควันยาสูบ หรือ ECST (Ends Cigarette Smoke Thailand) และแอดมินเพจ บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร เผยว่า ผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งอังกฤษออกมาชี้แจงว่างานวิจัยสถาบันมะเร็งมอเรส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ว่า "บุหรี่ไฟฟ้า" ช่วยเลิกบุหรี่ได้น้อยกว่าการใช้นิโคตินทดแทนมีวิธีทำการวิจัยที่ยังไม่ถูกต้อง ทำให้ได้ข้อสรุปขัดแย้งกับการศึกษาในผู้ใช้จริง (การศึกษาทางคลินิก) ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า "บุหรี่ไฟฟ้า"เป็นตัวช่วยสำหรับผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ เอฟเฟคทีฟ ควิทติ้ง เอด (effective quitting aids) และทางหน่วยงานสุขภาพระดับชาติของอังกฤษก็รับรองผลและชี้แนะว่าควรนำไปใช้ด้วย

 

คำชี้แจงดังกล่าวของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ จอห์น บริตตัน จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ Science Medical Centre โดยระบุว่า ผลการศึกษาจากการสังเกตการเลิก "บุหรี่ไฟฟ้า"และการใช้ "บุหรี่ไฟฟ้า" ในสหรัฐอเมริกามีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด เพราะเป็นการพิจารณาตัวแปรที่สุดโต่ง คือ ในผู้สูบบุหรี่ที่เสพติดขั้นรุนแรง และผู้สูบบุหรี่ที่ขาดแรงจูงใจในการพยายามเลิกหรือลดการเสพติดบุหรี่มวน หรือผู้ที่เคยล้มเหลวจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนเพื่อเลิกบุหรี่มาก่อนแล้ว จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลวิจัยไม่เห็นความสำเร็จในการใช้ "บุหรี่ไฟฟ้า "ช่วยเลิกบุหรี่ ซึ่งแตกต่างจากงานวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (clinical trials) ที่มีการออกแบบการทดลองอย่างรอบคอบ ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบคำถามว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้เสพติดบุหรี่ที่มีสารอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าได้จริงหรือไม่

นอกจากนี้ ศ.กิตติคุณ บริตตัน ยังระบุว่า ข้อสรุปจากการวิจัยทางคลินิกที่แสดงผลชัดเจนว่า "บุหรี่ไฟฟ้า"เป็นเครื่องมือช่วยบำบัดผู้อยากเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพนำไปสู่การปรับนโยบายสาธารณสุขของทางฝั่งอังกฤษ ที่ได้รับรองการใช้ "บุหรี่ไฟฟ้า" และมีคำแนะนำการใช้ที่เหมาะสมไว้ใน คู่มือการเลิกบุหรี่ หรือไกด์ไลน์ฉบับล่าสุดปี 2021 ของสถาบันสุขภาพและการดูแลสุขภาพแห่งชาติ ของสหราชอาณาจักร หรือ NICE  (UK National Institute for Health and Care Excellence)

 

นายอาสา กล่าวอีกว่า เครือข่ายเรามีสมาชิกและผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน ซึ่งหลาย ๆ คน ก็ยืนยันประสบการณ์จริงได้ว่าพวกเราอยากให้ตัวเองและคนรอบข้างได้รับอันตรายจากควันบุหรี่น้อยลง จึงเปลี่ยนมามาใช้บุหรี่ไฟฟ้าและไม่ได้สูบบุหรี่กันแล้ว เราจึงอยากให้ผู้กำหนดนโยบายได้มองรอบด้านและนำข้อมูลทั้งด้านลบด้านบวกมาพิจารณาในทุกมิติ ไม่ใช่แต่เรื่องสุขภาพ เพื่อที่จะพาเราไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับคนสูบบุหรี่ได้จริง ๆ ไม่ใช่อ้างงานวิจัยชิ้นเดียวแล้วมาออกข่าวใหญ่โตเพื่อสร้างความเข้าใจผิด เพื่อต้องการคงการแบนบุหรี่ไฟฟ้าไว้ต่อไป ทั้งที่การแบนบุหรี่ไฟฟ้าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ทำให้สูบบุหรี่ในประเทศกว่า 9 ล้านคน และคนรอบข้างที่ได้รับควันมือสองอีกกว่า 15 ล้านคน ยังต้องได้รับอันตรายต่อไป 

เราจึงอยากเห็นการแก้ปัญหา "บุหรี่ไฟฟ้า "เช่นเดียวกับที่เราจัดการเรื่องกัญชา กระท่อม ที่นำมาควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย หรือเรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ทำให้รัฐควบคุม เก็บภาษีสรรพสามิตได้และป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชนได้เหมือนในอีก 79 ประเทศทั่วโลก

 

จึงขอฝากไปถึงท่าน รมว. ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐที่ออกมาสนับสนุนการแก้ปัญหาเรื่อง "บุหรี่ไฟฟ้า" พรรคประชาธิปัตย์ที่ดูแลด้านกฎหมายการแบนห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าของกระทรวงพาณิชย์  พรรคภูมิใจไทยที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุข หรือแม้แต่พรรคกล้า และ ส.ส. หลายท่านของพรรคก้าวไกล ที่ออกมาสนับสนุนให้มีการแก้ไขกฎหมายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ให้นำข้อมูลตรงนี้ไปพิจารณาด้วย นายอาสา กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ