"ประธานวิปรัฐบาล" มั่นใจ รัฐบาลเคลียร์ "ญัตติอภิปราย" ได้

นาย นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเตรียมรับมือการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวลเนื้อหาที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย เพราะเชื่อว่าส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลเก่าที่รู้กันอยู่แล้ว  แต่การอภิปรายของฝ่ายค้านครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ การทำงานที่ผ่านมา

ส่วนตัวมองว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านที่มีเนื้อหาน่าสนใจ คือการอภิปรายของ นางสาว ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มักใช้ข้อมูลเชิงวิชาการมานำเสนอเป็นเนื้อเป็นหนังมากกว่า การอภิปรายของคนอื่นที่ใช้สำนวนโวหารเสียมากกว่าเนื้อหา และในวันนี้ พรรคก้าวไกลก็เตรียมอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ จากการเปิดเผยของนาย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคที่ระบุว่าจะสะท้อนปัญหาจากประชาชนสู่รัฐบาลให้มากที่สุด

ส่วนฝ่ายค้านอีกคนที่มองว่า มีการอภิปรายที่น่าสนใจคือ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ส่าวนาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แม้จะมีลีลาอภิปรายน่าสนใจแต่ก็มีจุดอ่อน 

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นการอภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ไม่ได้เจาะจงรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมระบุถึงข้อสรุปหลักๆ ดังนี้

1. วิกฤติเศรษฐกิจ ในยุคข้าวของแพงค่าแรงถูก แพงทั้งแผ่นดิน
2. วิกฤติโรคระบาด ทั้งโควิด-19 โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF)
3. วิกฤติทางด้านการเมือง ยุคปฏิรูปการเมืองที่ล้มเหลว ยุคการเมืองที่ใช้เงินเป็นหลัก
4. วิกฤติเรื่องของความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ที่ไร้ประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย