ข่าว

เจ้าของร้านอาหารโดน "บุกชกหน้า" ยันเดินหน้าคดี หลังคู่กรณี ไม่พูดความจริง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มเจ้าของร้านอาหารย่านลาดพร้าว ที่โดน "บุกชกหน้า" ยืนยันเดินหน้าดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หลังคู่กรณีขอเจรจา แต่สุดท้ายไม่ยอมพูดความจริง อ้างสาเหตุเกิดจากการเข้าใจผิด

จากกรณีในโซเชียล มีการแชร์ข้อมูลว่ามี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านซอยลาดพร้าวถูกคนร้ายบุกเข้ามาก่อเหตุทำร้ายร่างกายถึงภายในร้าน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าของร้านจะใช้เวลารวบรวมหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดจากภายในร้านและรอบจุดเกิดเหตุและสืบหาความเชื่อมโยงของผู้ก่อเหตุยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกายผิดตัวและมีการนำเสนอผ่านโลกโซเชียล และได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

เจ้าของร้านอาหารโดน \"บุกชกหน้า\" ยันเดินหน้าคดี หลังคู่กรณี ไม่พูดความจริง

 

 

ล่าสุดวันนี้  นายเปาว์  สระทองคำ  เจ้าของร้านอาหารบุดดาเฮ้าท์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุธิศักดิ์ พิริยะภิญโญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร หลังผู้ก่อเหตุมีการประสานขอเจรจา โดยการพูดคุยเจรจาใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะเดินออกจาก ห้องประชุมและกลับออกไป โดยไม่มีการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน

 

 

ต่อมานายเปาว์  เจ้าของร้านอาหาร ที่ถูกทำร้ายร่างกาย เปิดผยว่า การพูดคุยในวันนี้ ตนเองยืนยันว่าหากผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่าใครเป็นผู้สั่งการให้มาก่อเหตุก็พร้อมจะไม่แจ้งความและยุติทุกอย่างทางคดีความ เพราะไม่อยากมีปัญหาแต่ที่ต้องการทราบเนื่องจากจะได้ให้ผู้สั่งการรู้ว่าตนเองรับรู้แล้วว่าเป็นใครจะได้ไม่มีการกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก  เพราะตนเองต้องทำมาหากินประกอบธุรกิจร้านอาหารและทางครอบครัวมีความวิตกกังวล  

 

เจ้าของร้านอาหารโดน \"บุกชกหน้า\" ยันเดินหน้าคดี หลังคู่กรณี ไม่พูดความจริง

 

แต่จากการพูดคุยผู้ก่อเหตุยังคงอ้างว่าในวันเกิดเหตุอยู่ในอาการมึนเมาส่วนที่ก่อเหตุลงมือต่อยตนเองเนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นแฟน เก่าของแฟนสาวที่โกรธแค้นกันอยู่ และในวัน ก่อเหตุได้มีการติดต่อพี่ชายให้เดินทางมารับ ไม่ได้มีการยกพวกมาจะทำร้ายหรือหาเรื่อง ทางตำรวจจึงมีการติดต่อทางโทรศัพท์ไปถึงพี่ชายของผู้ก่อเหตุที่มีการอ้างชื่อถึงซึ่งทางพี่ชายของผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลกับตำรวจว่าในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากผู้ก่อเหตุให้ไปรับเนื่องจากมีการดื่มสุราจนมึนเมาพี่ชายจึงเดินทางไปรับด้วยการนั่งรถแท็กซี่มาลงที่หน้าปากซอยและเดินเท้าเข้ามาที่ร้านเพื่อมารอรับน้องชาย

 

 

แต่จากวงจรปิดทั้งหมดที่ตนเองได้รวบรวมไว้และให้ทางผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร ดูกลับไม่ตรงกับคำให้การของพี่ชายรวมถึงผู้ก่อเหตุ เพราะ ในวงจรปิดสามารถบันทึกได้ว่าพี่ชายเดินทางร่วมมากับผู้ก่อเหตุและมาเฝ้ารออยู่ภายในร้านก่อนจะมีการก่อเหตุและออกไปรวมตัวขว้างปาเก้าอี้อยู่ที่บริเวณหน้าร้านซึ่งจำนวนของผู้ก่อเหตุมีมากกว่าสองรายแต่พี่ชายอ้างว่าเดินทางไปรวมกันแค่สองรายซึ่งถือว่าขัดแย้งกับภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ และเป็นกล้องวงจรปิดที่ไม่ได้มีการนำเสนอผ่านสื่อในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไม่ได้เตรียมตัวเพราะไม่เห็นหลักฐานชุดนี้

 

 

เจ้าของร้านอาหารโดน \"บุกชกหน้า\" ยันเดินหน้าคดี หลังคู่กรณี ไม่พูดความจริง

 

นายเปาว์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อมีการสอบถามว่าเหตุใดข้อมูลที่ให้มาจึงไม่ตรงกับภาพที่อยู่ในวงจรปิด ทั้งสองไม่สามารถตอบได้ ซึ่งในขั้นตอนต่อจากนี้ทราบว่าจะมีการเรียกตัวพี่ชายที่ขณะนี้ยังคงอยู่ที่ต่างจังหวัดให้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เนื่องจากทาง ผกก.สุทธิสาร มองว่าการให้ข้อมูลกับทางตำรวจของผู้ก่อเหตุไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่หลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าน่าจะเข้าข่ายประมาณสามข้อหาคือร่วมกันทำร้ายร่างกาย , ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานยามวิกาล, และความผิดเกี่ยวกับการพกพาอาวุธมีด ส่วนจะมีข้อหาอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่เบื้องต้นทางตำรวจอยู่ระหว่างการพิจารณา

 

ทั้งนี้ ตนเองยืนยันว่าในวันนี้จุดประสงค์ต้องการเข้ามาเคลียร์เพื่อยุติปัญหาแต่ในเมื่อทางคู่กรณีไม่ยอมพูดความจริงก็จะเดินหน้าทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วนที่มีผู้ใหญ่ติดต่อประสานงานมาที่ทางผกก.ตนเองได้สอบถามในประเด็นนี้ซึ่งมีการพูดชื่อถึงบุคคลหนึ่งซึ่งทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่มีเบอร์ติดต่อและไม่มีชื่อจริงรวมถึงทาง ผกก.เองก็ไม่รู้จักจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ที่เป็นตัวกลางในการนัดเจรจาเลยครั้งนี้คือใคร

 

ส่วนของความรู้สึกส่วนตัวตั้งแต่วันเกิดเหตุมาจนถึงปัจจุบันยังคงรู้สึกเฉยเฉยไม่ได้มีความรู้สึกหวัดกลัวใดใดมีแต่ครอบครัวและภรรยาที่ยังคงตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งได้มีการกำชับไม่ให้ตนเองเข้าร้านโดยไม่จำเป็น เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุซ้ำขึ้นได้อีก

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ