อช.ทองผาภูมิ แจ้งความจับผู้ลักลอบขุดหลุมวางแร้วดักเสือโคร่ง

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3  (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า จากการที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งว่านายกรัฐมนตรีห่วงปัญหาเสือโคร่งถูกล่า และกำชับเร่งเก็บกู้บ่วงแร้วดักเสือ และสัตว์ป่าอื่น ๆ พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน และหาตัวผู้กระทำผิดมาเดินคดีถึงที่สุด รวมถึงข้อสั่งการของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่า และทำลายป่าไม้อย่างเด็ดขาด

วันนี้ นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษดำเนินคดีที่ สภ.ปิล็อก จ.กาญจนบุรี กับผู้ขุดหลุมวางแร้วดักจับเสือโคร่งหรือสัตว์ป่าชนิดอื่น ที่ตรวจพบเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริเวณป่าห้วยปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จำนวน 10 หลุม โดยแจ้งความตามมาตรา 19(2) ประกอบมาตรา 42 ในข้อหากระทำการใด ๆ โดยการขุดหลุมวางแร้ว ทำให้เป็นอันตราย หรือให้เสื่อมสภาพซึ่งดิน หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษ จำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

สำหรับอุปกรณ์บ่วงเชือกสลิง (แร้ว) ได้เก็บกู้ไปหมดแล้ว และขณะตรวจสอบหลุมวางแร้วดักสัตว์ป่า ไม่พบผู้ใดอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากหลุมแร้ว 10 หลุมดังกล่าว อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณที่ นายรัชชานนท์ กับพวก ผู้ต้องหาฆ่าเสือโคร่ง 2 ตัว จึงขอให้ ร.ต.อ.สองนคร เครือแสง พนักงานสอบสวน สภ.ปิล็อก สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่า นายรัชชานนท์ และพวก มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในการขุดหลุมวางแร้วหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่วานนี้ (14 กุมภาพันธ์) นายสิขกพงษ์ วังกระจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ( ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ) ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา "กรณีเสือโคร่งพิการ 3 ขา ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิและอุทยานแห่งชาติเขาแหลม” โดยมี นายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีการหารือเพื่อกำหนดมาตรการวางแผนปฏิบัติอย่างเร่งด่วน

สรุปผลการประชุมดังนี้ เตรียมสนธิกำลังเพิ่มชุดลาดตระเวนอย่างเข้มข้น เพื่อค้นหาหลุมวางกับดักหรือบ่วงแร้ว บริเวณแนวรอบหมู่บ้านปิล็อคคี่ รัศมีอย่างน้อย 7-10 กิโลเมตร และติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าเพิ่มเติมจาก 20 จุด เป็น 2 เท่า เพื่อติดตามจำนวนประชากรเสือโคร่งว่ามีกี่ตัว และติดตามพฤติกรรมหรือที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งพิการ 3 ขา ว่าอยู่บริเวณใดบ้าง การหากินเป็นอย่างไร โดยจะนำข้อมูลที่ได้จากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่ามาวิเคราะห์และประเมิน เพื่อจะดำเนินการวางแผนต่อไป และเมื่อพบหลักฐานการกระทำความผิดจากการลาดตระเวน ให้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษทันที 

และจะได้สนับสนุนหัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ (ผู้เชี่ยวชาญด้านเสือโคร่ง) เข้าร่วมสำรวจพื้นที่ วิเคราะห์ และสังเกตพฤติกรรมของเสือโคร่ง พร้อมสร้างความเข้าใจและให้คำแนะนำกับชาวบ้าน  ร่วมกับองค์กรพันธมิตรด้านการอนุรักษ์ เช่น องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) มูลนิธิฟรีแลนด์ และองค์กรแพนเทอร่า เป็นต้น