ข่าว

"อนุทิน ชาญวีรกูล" เชื่อ 2 ส.ส.ช่างเหลา ซบภูมิใจไทย ไม่ขัดแย้งบิ๊กป้อม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อนุทิน ชาญวีรกูล" เชื่อ 2 ส.ส.ช่างเหลา ซบภูมิใจไทย ไม่ขัดแย้งบิ๊กป้อม ส่วนใครมองโยงสัมพันธ์ ธรรมนัส ขอย้ำว่าเพื่อนกันทั้งนั้น เผยนายกฯ ไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. ยันจำนวน ส.ส. เพิ่ม ไม่มีผลปรับเพิ่มเก้าอี้

"นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี นายเอกราช และนายวัฒนา ช่างเหลา 2 ส.ส. ที่เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย จนถูกมองว่าเป็นพรรคที่เนื้อหอม ว่า ไม่รู้จะตอบยังไง และเชื่อว่าการสมัครสมาชิกพรรคของ 2 คนนี้ ไม่น่าจะขัดแย้งกับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะคนที่จะเข้ามาพรรคภูมิใจไทยต้องเเสดงความจำนง ต้องมีความทุ่มเทเสียสละ ไม่มีประวัติด่างพร้อย และพรรคก็มีสมาชิกเป็นแสนคน

 

ส่วนคดีความของนายเอกราช ตนยังไม่เห็นการแจ้งในใบสมัคร ถ้ามีคดีก็เป็น ส.ส. ไม่ได้ตั้งแต่แรกเเล้ว อยู่พรรคไหนก็ไม่ได้ ที่สำคัญนายเอกราช รู้จักกับหลายคนในภูมิใจไทย

 

ส่วนที่นายเอกราช ถูกมองว่าเป็นมือขวาของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย กรณีนี้จะโยงเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง "นายอนุทิน" กับร้อยเอกธรรมนัส หรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า เพื่อนกันทั้งนั้น พรรคพวกเดียวกันทั้งนั้น อยู่พรรคเดียวกันคนละพวก อยู่คนละพรรคพวกเดียวกัน พร้อมยืนยันพรรคภูมิใจไทยไม่เคยดูด ส.ส. หนูเปล่านะเขามาเอง ส่วนจะมีใครเข้ามาร่วมอีกก็แล้วแต่ 

 

"นายอนุทิน" ยังยืนยันว่า จำนวน ส.ส.ที่เพิ่มขึ้นไม่มีผลต่อการปรับ ครม.ที่เยอะขึ้น เป็นคนละเรื่อง ซึ่งการกดดันเมืองมีอยู่อย่างเดียวที่เป็นสัญลักษณ์หลักๆ ก็คือโควต้าคณะรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าอยู่อย่างนี้ ไม่มีกดดัน
 

เมื่อถามว่า มีคนเข้ามาร่วมงานกับพรรคเยอะขนาดนี้ ครั้งหน้าภูมิใจไทยอาจเป็นแกนนำรัฐบาลได้หรือไม่ "นายอนุทิน" บอกว่า เจียมเนื้อเจียมตัวดีกว่า เขามาถึงชานเรือนก็ต้องต้อนรับ และสัญญาว่าจะทำความดีให้กับบ้านเมืองให้กับประชาชน ถ้าใครผิดสัญญาก็ไม่เอาไปด้วย และจนถึงขณะนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการส่งสัญญาณเรื่องปรับ ครม. ถ้าจะปรับก็เป็นเรื่องของนายกฯ เอง เพราะเป็นสิทธิอยู่แล้ว

 

ตอนนี้ ครม.ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง ก็ไม่ใช่โควตาของพรรคภูมิใจไทย ถึงแม้จะมีส.ส.กี่คนก็ตาม เราถือว่าเราเริ่มมาเท่านี้ และช่วงนี้ถือเป็นปีสุดท้ายของรัฐสภาชุดนี้อยู่แล้ว หมายถึง 12 เดือนสุดท้าย ก็ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำงานด้วยกันให้บ้านเมืองได้ประโยชน์มากที่สุด สิ่งที่เป็นความกังวลของประชาชนก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ปัญหาเฉพาะหน้าต่าง ๆ ก็แก้ไขได้เรื่อย ๆ ช่วยกันบรรเทาความทุกข์ของคนในชาติ และการปรับ ครม.ก็ไม่กระทบพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ที่ผ่านมาแต่ละพรรคต่างสงวนอัตราที่นั่งของรัฐมนตรีเอาไว้ และไม่มีใครไปทวงว่าจะต้องได้มากกว่าหรือน้อยกว่า มันไม่ใช่ประเด็น “too late” ทำงานอย่างนี้ไปดีกว่า 

 

ส่วนความขัดแย้งอย่าไปผูกกันเรื่องการทำงาน เพราะเป็นความเห็นต่างของหน่วยงาน ไม่ใช่ความเห็นต่างของนโยบาย อย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีการบอกเป็นประเด็นแตกหักรัฐบาล ตนคิดว่าห่างไกลจากจุดนั้นเยอะมาก มันเป็นความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน ก็ต้องให้สิทธิ คนๆนึงมองว่าทำได้ อีกคนมองแล้วว่าจะเสี่ยงคดีเสี่ยงคุก เสียค่าเสียหายพอมีเรื่องอาญามาเกี่ยวข้องก็ต้องให้เกียรติกัน ต้องยอมให้แต่ละฝ่ายใช้ดุลพินิจ ส่วนมติ ครม. จะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไป แต่จะมาบังคับว่าต้องเห็นด้วยกันหมดทุกอย่าง มันไม่ใช่

logoline