ข่าว

ส่ง 21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถึงไทยวันนี้ หลังบุกทลาย 3 จุด ในกัมพูชา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" จะกลับถึงไทยวันนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา เป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลังตำรวจ PCT ประสาน กัมพูชา เปิดปฏิบัติการค้นเป้าหมาย 3 จุด วานนี้

12 ก.พ.2565  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (  ศปอส.ตร ) หรือ PCT เปิดเผยว่า คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT และ DES ได้เดินทางกลับจากกัมพูชาแล้ววานนี้ พร้อมนำผู้ต้องหา 21 ราย กลับมาดำเนินคดีได้สำเร็จ 

 

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 ก.พ.65 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  พร้อมด้วย  นายเอกสิทธิ์  คุณานันทกุล  เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ต.พันธนะ  นุชนารถ ผบก.สส.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 1, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 /หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5  พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ  โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2   พ.ต.อ.ชย  พานะกิจ  ผกก.สอบสวน บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ปริญญา  กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ  เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อพบกับ พล.อ.เซา ซกคา รอง ผบ.สส. และ ผบ.สห.  ผู้แทนฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ฝังตัวอยู่ในกัมพูชา

 

  ส่ง 21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถึงไทยวันนี้ หลังบุกทลาย 3 จุด ในกัมพูชา

 

 

ส่ง 21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถึงไทยวันนี้ หลังบุกทลาย 3 จุด ในกัมพูชา

 

 

ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.พ.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย "แก๊งคอลเซ็นเตอร์ "  จำนวน 3 จุดพร้อมกัน ดังนี้ 

 

จุดที่ 1 อาคาร Y.N Hotel กรุงพนมเปญ ชั้น 4-8 ใช้เป็นสถานที่พักอาศัยของผู้ต้องหา  โดยใช้ชั้น 9 เป็นสถานที่ในการชักชวนผู้เสียหายหลอกลงทุน มีคนจีนเป็นหัวหน้าและผู้ควบคุมการทํางาน ลักษณะการเป็นการหลอกลวงให้ลงทุนในการซื้อขายเหรียญสกุลดิจิทัล ผ่านเว็บไซต์ Digital Alliance มีผู้เสียหายเป็นคนไทยจํานวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย 

 

 

ส่ง 21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถึงไทยวันนี้ หลังบุกทลาย 3 จุด ในกัมพูชา

 

จุดที่ 2 อาคารตรงข้าม Sokha Vegas Caniso ในเมืองพระสีหนุ เป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นบนสุดใช้เป็นสถานที่พักอาศัย และทํางานในการโทรมาหลอกลวงผู้เสียหายที่ประเทศไทย โดยแอบอ้างเป็น เจ้าหน้าที่ตํารวจ และ DSI  มีคนจีนเป็นหัวหน้าคอยควบคุมดูแลสั่งการ และบังคับไม่ให้ออกไปด้านนอก ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงเพราะความกลัว มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย 

 

 

ส่ง 21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถึงไทยวันนี้ หลังบุกทลาย 3 จุด ในกัมพูชา

 

 

จุดที่ 3 อาคาร Chinatown GM Office ในเมืองพระสีหนุ ซึ่งเป็นที่พักและ ที่ทํางานในการชักชวนผู้เสียหายหลอกลงทุน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม มีกลุ่มคนจีนควบคุมแต่ละกลุ่ม ลักษณะการหลอกลวงให้เล่นเกมส์แบบพิชิตเป็นภารกิจโดยส่งลิ้งค์ผ่านเว็บ
ไซต์ 888168hs.com เพจ ct make money โดยอ้างตัวเป็นเครือของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และ ปตท. หรือ กลุ่ม PTTEP มีผู้เสียหายเป็นคนไทยจํานวนมาก มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้อีก 13 ราย  

 


ส่ง 21 ผู้ต้องหา "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ถึงไทยวันนี้ หลังบุกทลาย 3 จุด ในกัมพูชา

 

 

รวมทั้ง 3 จุด สามารถจับตัวผู้ต้องหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ทั้งสิ้น 21 ราย โดยเจ้าหน้าที่กัมพูชาจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว เพื่อกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในข้อหา เป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะเร่งรัดดำเนินการติดตามตัวเพื่อส่งตัวให้กลับประเทศไทยโดยเร็ว 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  เปิดเผยอีกว่า  ในระหว่างปฏิบัติการ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ติดตามสอบถามเป็นระยะ เนื่องจากเป็นคดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทยอย่างมาก ครั้งนี้เราได้หารือเป็นทางการกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา และได้นำหมายจับมอบให้กับกัมพูชาถึง 71 หมาย ซึ่งถือว่ามากที่สุดที่เคยมีมา และสามารถจับได้ถึง 21 ราย นอกจากนี้ได้ร้องขอว่าหากพบมีคนไทยถูกหลอก ถึงแม้จะไม่มีหมายจับก็ขอให้ส่งตัวให้กับประเทศไทยเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป 

 

ด้านนายเอกสิทธิ์   เลขา รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง  DES​ ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก เรื่องคอลเซ็นเตอร์ที่มาหลอกลวงคนไทย และต้นตออยู่ที่ประเทศกัมพูชา ครั้งนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัล ฯ​ ได้มอบหมายให้ตนมากับทีมงานท่าน รอง ผบ.ตร. เพื่อหารือกับประเทศกัมพูชา ในการทำ MOU การประสานงานในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อต่อไปเจ้าหน้าที่ไทยจะได้เข้ามาทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น 

 


รอง ผบ.ตร.  ยังได้ฝากเตือนประชาชน   ขณะนี้กลุ่มที่เป็นลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการโทรศัพท์ไป ข่มขู่ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกให้โอนเงิน หรือปลอมโปรไฟล์คนหน้าตาดี หลอกให้หลงรัก หรือหลอกให้ลงทุน พบว่ายังมีอยู่มาก เตือนว่าอย่าไปหลงเชื่อ อย่าโอนเงินให้กับคนที่ยังไม่เคยรู้จัก และขอประชาสัมพันธ์ไปยังคนไทยที่ไปทำงานในประเทศกัมพูชา โดยหวังว่ารายได้ดี เมื่อท่านเข้าร่วมในกระบวนการนี้แล้ว ท่านจะมีความผิดและต้องถูกดำเนินคดี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนด้วย หากจะไปทำงานจริงควรติดต่อผ่านหน่วยงานของรัฐ เช่นกระทรวงแรงงาน

 

ทั้งนี้หากพบเบาะแส สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ PCT 081-8663000 เวลาราชการ หรือ สายด่วน บช.สอท.1441 ตลอด 24 ชม. หรือ www.pct.police.go.th 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ