ข่าว

หญิง "นิวซีแลนด์" ลั่นกลางม็อบต้านวัคซีน จะเลิกสามีหลังฉีดเข็มสาม (คลิป) 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สะท้อนจุดยืนต้านวัคซีน โควิด-19 แรงกล้า หญิง "นิวซีแลนด์" ประกาศกลางม็อบ จะเลิกกับสามีเพราะไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

 


นิวซีแลนด์เผชิญการชุมนุมต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และมาตรการควบคุมต่าง ๆ เข้าสู่วันที่ 4 แล้ว  โดยผู้ประท้วงหลายพันคนจากทั่วประเทศที่เรียกตนเอง ว่า  ขบวนเสรีภาพ ใช้รถบรรทุก รถเก๋ง มอเตอร์ไซค์และรถบ้าน ปิดถนนรอบอาคารรัฐสภา ในกรุงเวลลิงตัน มาตั้งแต่วันอังคาร ( 8 ก.พ. ) เพื่อร่วมแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายโควิดของรัฐบาล และในระหว่างการชุมนุมเมื่อวานซึ่งเป็นวันที่ 3 มีการแชร์คลิปสัมภาษณ์สตรีคนหนึ่งที่ไปร่วมประท้วง  สะท้อนถึงอารมณ์และแนวคิดต่อต้านวัคซีนอย่างแรงกล้าของม็อบ เมื่อเธอถึงกับประกาศว่า จะเลิกกับสามี เพราะว่าเขาไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

 

 

“ดิฉันกำลังจะเลิกสามี เขาไปฉีดเข็มกระตุ้นมาวันนี้  เขาตายแล้ว  ดิฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขาอีก ฉันเชื่ออย่างสุดใจว่าเขากำลังจะตาย  ” เธอบอกกับ 1 News  สื่อนิวซีแลนด์ และเสริมด้วยว่า “ในวันนี้ ฉันพร้อมจะพลีชีพเพื่อลูกหลาน” 

 

( ชมคลิป TikTok คลิก

 

@clarabean23

absoloute scenes in Wellington today

♬ original sound - Clara ✨

 

คลิปสัมภาษณ์สั้น ๆ  กลายเป็นไวรัลบน TikTok มีคนไปกดถูกใจกว่า 5 หมื่น ขณะเดียวกันก็มีผู้เข้าไปเชียร์การตัดสินใจของสามีสตรีท่านนี้อย่างล้นหลามเช่นกัน  

 

 

 

การชุมนุมในเมืองหลวงนิวซีแลนด์ เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.  ได้แรงบันดาลใจจากการประท้วงของเหล่าผู้ขับรถบรรทุกในแคนาดา  เจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์ยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน   เมื่อวาน มีผู้ประท้วงถูกจับกุมอย่างน้อย 120 คน ตำรวจบาดเจ็บสองนาย  ประท้วงตั้งเต้นท์บนสนามหญ้าของอาคารรัฐสภา และมีหลายคนประกาศจะปักหลักนานเท่าที่สุด ขณะที่นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ทัศนคติของม็อบนี้ไม่ได้สะท้อนคนส่วนใหญ่ของประเทศ และไม่มีแผนจะไปเจรจา

 

รัฐบาลนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น บังคับใช้มาตรการเข้มเพื่อควบคุมการระบาดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตในประเทศอยู่ในระดับต่ำ  แต่ก็ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยไม่พอใจ เพราะต้องแยกตัวออกจากสังคมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงชาวนิวซีแลนด์ที่ไปทำงานที่ต่างประเทศและไม่สามารถกลับมาเยี่ยมครอบครัวได้  เพราะมาตรการปิดพรมแดน 

 

นิวซีแลนด์  ซึ่งฉีดวัคซีนครบโดสครอบคลุมประชากรกว่า 76% บังคับฉีดวัคซีนบุคลากรการแพทย์ ผู้พิการ การศึกษา ดับเพลิง บริการฉุกเฉิน ตำรวจ ทหารและทัณฑสถาน ทั้งยังมีข้อกำหนดเรื่องวัคซีนในภาคธุรกิจอีกมากมาย ทำให้คนที่ปฏิเสธวัคซีนถูกตัดขาดจากการเข้าใช้บริการและสถานที่สาธาณณะต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ประท้วงจำนวนมากยังคัดค้านบังคับสวมแมสก์ เช่น ในร้านค้า  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ