เส้นทางชีวิต "ทิดสมปอง" กว่าจะมีวันนี้ มีกี่ดราม่า

ส่งไม้ต่อกันเหมือนวิ่งผลัด ระหว่างสองทิดผู้โด่งดัง "ทิดไพรวัลย์" และ "ทิดสมปอง" สร้างตำนานเทศน์ออนไลน์ที่มีผู้เข้าชมมากถึง 2 แสนวิว จนกลายเป็นที่จับตามองของทุกฝ่าย ความดังที่มาพร้อมเรื่องราวดราม่ามากมาย เรียกได้ว่าไม่มีได้พัก จากทิดน้องที่ดราม่าแรงจากรายการนินทาประเทศไทย ที่ทำให้โลกโซเชียลเดือดปุด ๆ ไม่มาไม่กี่วัน ทิดผู้พี่รีบรับไม้ต่อทันที ความทิดน้องไม่ทันหาย ความทิดพี่เสียบทันที กับเหตุการณ์ล่าสุด "ทิดสมปอง" หรือนายสมปอง นครไธสง ออกมาประกาศถอนตัวจากรายการทั้งหมดของ ทีวีพลู สร้างความประหลาดใจไม่นาน เจ๊ติ๋มแห่งทีวีพลู ก็ออกมาแถลงเดินคนละเส้นทางกับ "ทิดสมปอง" ที่ยอมรับว่า มีสาเหตุจากเรื่องเงิน เรียกได้ว่า ดราม่าครั้งนี้น่าจะหนักที่สุดของ "ทิดสมปอง" ก็ว่าได้ จากคนที่เคยรักเอย เตยหอม ออกมาแฉพฤติกรรม ทิดท่าน

แต่ดราม่าของ "ทิดสมปอง" ไม่ได้พึ่งมีหลังสึกมาเป็นฆราวาสเท่านั้น แต่มีมาต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่สมัยเป็นสงฆ์ จากอดีตพระนักเทศน์นักบรรยายช่องดัง คิวทองที่มีงานบรรยายมากมายก่อนการแพร่ระบาดของ "โควิด-19" ทำให้การออกไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆ ต้องลดลงจนไม่ได้ออกไปบรรยายนอกวัด ทำให้มีเวลาอยู่วัดมากขึ้น การคอลแลปกันระหว่าง 2 พส. แห่งวัดสร้อยทองจึงเกิดขึ้น และดูเหมือนมาจะมาพร้อมกับเรื่องราวดราม่า ที่ตามมาอีกไม่หยุดยั้ง เนื่องจากการไลฟ์ของ 2 พส. อาจมีการพาดพิงถึงผู้ใหญ่ การเมือง เหตุการณ์บ้านเมืองต่างๆ ส่งผลให้พระผู้ใหญ่ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่งสัญญาณความไม่พอใจ มีการตักเตือน รวมไปถึงการถูกขู่จับสึก มายัง 2 พส. จนเกิด #saveพระมหาสมปอง ขึ้นเทรนทวิตเตอร์ ให้กำลังใจพส.สมปอง ที่ออกมาไลฟ์ ว่า รู้สึกอึดอัดเพราะถูกจับผิด ถูกขู่จับสึก และ ถูกกล่าวหาว่าไม่สำรวม

ดราม่าครั้งนั้นมีทั้งผู้ที่เข้ามาให้กำลังใจและผู้ที่อยากให้สึก พระมหาสมปองในขณะนั้น ได้ออกมาประกาศว่าไม่ต้องจับสึกถึงเวลาจะสึกเอง พร้อมทั้งเผยถึงอาชีพที่อยากทำหลังจากสึก มีทั้งการเป็นนักฟุตบอล นักข่าว เล่นตลก

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีกระแสดราม่า เรื่องการประกาศสึก หลังจากที่อดีต "พระมหาไพรวัลย์" ประกาศ ทั้งน้ำตาผ่านไลฟ์ เตรียมลาสิกขา เพื่อไปดูแลแม่ พส.ผู้พี่ ก็ออกมาแง้มบ้างว่ามีฤกษ์สึกในใจ คือวันเกิดของตนเอง 3 พ.ย 66 ซึ่งตรงกับอายุ 45 ปีพอดี การประกาศศึกครั้งนี้ ทำให้มีผู้หลักผู้ใหญ่ ออกมาตักเตือน แต่ผ่านมาอีกไม่กี่วัน "พระมหาสมปอง" ออกมาประกาศวันสึกใหม่อีกครั้งเป็นวันที่ 2 มกราคม 2565 สร้างกระแสฮือฮา ให้กับโลกโซเชียล ที่มีความคิดเห็น ต่างกันทั้งผู้ที่เห็นด้วยที่จะให้สึกลาสิกขา และผู้ที่ไม่เห็นด้วย เพราะยังอยากให้อยู่ในสมณเพศ ก่อนที่พระมหาสมปองจะ ประกาศเลื่อนสึกก่อนกำหนดเป็นวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และยอมรับมีหนี้ 10 ล้าน

ซึ่งหลังจากประกาศครั้งนี้มีกระแสข่าวออกมาอีกว่า "พระมหาสมปอง" จะลงเล่นการเมือง โดยมีพรรคการเมืองใหญ่ทาบทาม หลายพัก ซึ่งตรงกับที่ก่อนหน้านี้ "พระมหาสมปอง" เคยพูดว่า อยากลงเล่นการเมืองเพราะเชื่อว่า จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้มากกว่าที่เป็นอยู่ โดยสนใจที่จะเป็นโฆษกพรรคการเมือง

เรื่องนี้กลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์อีกครั้ง โดยมีการยื่นข้อเสนอ 3 ข้อ ให้กับนายวัน อยู่บำรุง ในการเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ผ่านไปเพียงชั่วข้ามคืน อดีตพระมหาสมปองประกาศว่า ขอไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองหลังสึกเนื่องจากหลายฝ่ายไม่สบายใจ

หลังจากลาสิกขาดูเหมือนกระแสดราม่า ยังไหลมาไม่หยุดหย่อน ทั้งการท้าพี่ศรี ศรีสุวรรณ จรรยาต่อย กระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักถึงความไม่เหมาะสม ที่แรงสุดในขณะนั้นคงหนีไม่พ้นการเปิดใจในรายการทีวี ว่าแอบชอบ บุ๋ม ปนัดดา มาตั้งแต่เป็นพระ งานนี้โซเชียลเดือดอีกรอบ ชาวเน็ตแห่คอมเม้นต์ หมดศรัทธาในตัวทิด งานนี้แม่บุ๋มถึงกับต้องดึงสติทิด

เหมือนจะยังไม่หมดแค่นั้น "ทิดสมปอง" ยังมีกระแสความดราม่าเรื่องความไม่เหมาะสมกับภาพสาวนั่งตัก งานนี้อี๊ด โปงลาง ต้องรีบออกมาชี้แจงว่า เป็นเพียงการแกล้ง "ทิดสมปอง" เด้อเท่านั้นเอง


แต่ไม่ว่ากระแสดราม่าของ "ทิดสมปอง" ตั้งแต่ครั้งยังเป็น สมณเพศ จนถึงเป็นฆราวาส ไม่มีครั้งไหนที่ถือว่าหนักหนาได้เท่าครั้งล่าสุดกับกระแสดราม่าแตกหักกับเจ๊ติ๋มทีวีพูล งานนี้ ต้องจับตาดูกันต่อว่าหลังจากนี้ที่สมปอง จะ มีกระแสดราม่าเพิ่มอีกหรือไม่ และกระแสดราม่าในครั้งนี้ "ทิดสมปอง" จะจบลงอย่างไร