ภรรยามือ "ฆ่ายัดกล่อง" เผย สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน คาดเสพยาก่อนก่อเหตุ

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดกล่องพลาสติก ทิ้งอยู่ในพงหญ้าหลังบ้านพักคนงานแพล้นปูน หมู่ 7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สภาพศพท่อนล่างเปลือย มีรอยเขียวช้ำ ทราบชื่อคือ น.ส.สุมิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี หรือน้องเต็น ที่หายไปตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และญาติสงสัยว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธนากร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ซึ่งทำงานในแพล้นปูนเดียวกัน และมีห้องพักติดกัน เพราะหายตัวไปหลังเกิดเหตุ กระทั่งถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากหนีมาหลบอยู่บ้านภรรยา ซึ่งเบื้องต้นยอมรับเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เดินทางมารับตัว นายธนากร ตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองสุพรรบุรี เมื่อช่วงเวลา 01.00 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหายอมรับว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับผู้เสียชีวิต และผู้เสียชีวิตอยากให้เลี้ยงดู แต่ตนเองมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว จึงเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนลงมือบีบคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพยัดใส่กล่อง

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านหนองมะงง หมู่ 4 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา นายธนากร ที่มาหลบซ่อนตัวหลังก่อเหตุ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มุงด้วยสังกะสี ซึ่งสร้างยังไม่เสร็จ และได้พบกับ นางสาวปิยะพร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ภรรยานายธนากร และลูกสาววัย 4 เดือน พร้อมด้วยยายของนางสาวปิยะพร

โดยนางสาวปิยะพร เปิดเผยว่า อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับ นายธนากร หรือแป๊บ ได้ประมาณ 1 ปี ปัจจุบันมีลูกสาววัย 4 เดือน 1 คน ซึ่งนายธนากร บ้านอยู่ใน ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ จ.สุพรรณบุรี ได้ประมาณ 5-6 เดือน ปกตินายธนากรเป็นคนอารมณ์ร้อน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายธนากรเดินทางกลับมาบ้าน บอกเพียงว่าคิดถึงลูก แต่ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังว่าไปทำอะไรมา ซึ่งตนเองก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะทุก ๆ 2 เดือนนายธนากรจะกลับมาเยี่ยมบ้าน

กระทั่งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีตำรวจตามมาจับกุมตัวที่บ้าน จึงทราบเรื่อง ตนเองตกใจมาก ทีแรกไม่อยากเชื่อ เพราะสามีแม้จะเป็นคนอารมณ์ร้อนก็จริง แต่ไม่ได้เป็นคนมีนิสัยโหดร้ายขนาดนั้น ทั้งนี้คาดว่าการก่อเหตุน่าจะเสพยาด้วย เพราะหากไม่เสพยาก็จะไม่ใช่คนนิสัยแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย ตนเองและญาติพี่น้องก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงลูกต่อไป

( จักรพงษ์ ระวิวรรณ / ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ )