สสน.เตือน เฝ้าระวัง "น้ำเค็ม" จากอิทธิพลของน้ำทะเลขึ้นสูง

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ  มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 50,241 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 71% ของความจุ โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การ 26,699 ล้านลูกบาศก์เมตร

ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีระดับน้ำน้อยถึงระดับน้ำปานกลาง  ส่วนภาคตะวันออกและภาคกลาง มีระดับน้ำปานกลางถึงระดับน้ำมาก  ขณะที่ภาคใต้มีระดับน้ำน้อยถึงระดับน้ำปานกลาง

ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ประเทศไทยมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยพบฝนตกหนักบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ 96 มิลลิเมตร , น่าน 50 มิลลิเมตร , สระแก้ว 45 มิลลิเมตร , นครศรีธรรมราช 39 มิลลิเมตร และพังงา 37 มิลลิเมตร

อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์นี้ ต้องเฝ้าระวังบริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางแห่ง เนื่องจากช่วงวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ บริเวณความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับกระแสลมตะวันตกพัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นเข้าสู่ตอนบนของประเทศ

ส่งผลให้บริเวณตอนบนของประเทศมีอากาศเย็น  และจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางและมีฝนตกหนักได้ในบางแห่ง

จากนั้นช่วงวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับกระแสลมตะวันตกที่ยังคงพัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้าสู่ตอนบนของประเทศ 

ส่งผลให้บริเวณตอนบนของประเทศมีอากาศเย็น และจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักได้ในบางแห่ง

นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวัง ความเค็มรุกตัวจากอิทธิพลของน้ำทะเลขึ้นสูง ในช่วงปรากฏการณ์น้ำเกิด ระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ , วันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ และ 28 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2565

สำหรับการตรวจสอบความเค็มในแม่น้ำสายสำคัญ พบว่าความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานี ณ เวลา 10.30 น. วัดได 90.19 กรัม/ลิตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ , ความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ณ เวลา 10.30 น. วัดได้ 95.70  โดยมีความเค็มสูงสุดเมื่อวานนี้ (3 กุมภาพันธ์) 7.19 กรัม/ลิตร ณ เวลา 20.10 น. เกินเกณฑ์มาตรฐานน้ำใช้เพื่อการเกษตรที่ 2.00 กรัม/ลิตร