เจาะลึกตลาด "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" น่าลงทุนจริง หรือแค่กระแส?

เมื่อ "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการ "ลงทุน"  ของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งสามารถสร้างรายได้ ได้มากกว่าหลักแสนบาทต่อเดือน วันนี้ "คมชัดลึกออนไลน์" จะพาไปรู้จักวิธีการลงทุน กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ให้กลายเป็น "สินทรัพย์" ที่สร้างความมั่งคั่ง บนความชอบได้ แต่ต้องมีการลงทุนอย่างถูกต้อง และถูกวิธี

กระเป๋า หลุยส์ วิตตอง รุ่น เอ็กซ์ ซูพรีม เป็นกระเป๋าอีกหนึ่งรุ่น ที่นักลงทุน กำลังตามหาในตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ซึ่งมีราคาอยู่ที่ ใบละ 300,000 บาท ขณะที่ราคาในช้อป จำหน่ายอยู่ที่ ใบละ 130,000 บาท แต่สาเหตุที่ กระเป๋ารุ่นนี้มีราคาพุ่งสูงมากกว่า 50 % นั้น เป็นเพราะว่า กระเป๋ารุ่นนี้ เป็นรุ่นที่หายากในปัจจุบัน เพราะทางแบรนด์ได้ เลิกผลิต และหาไม่ได้ในช้อปหลุยส์ทั่วโลก ซึ่งนักลงทุนก็เชื่อว่า ถ้าหากใครได้ครอบครองกระเป๋ารุ่นนี้ จะมีมูลค่าสูงมากขึ้นไปอีกในอนาคต

นาย สืบสกุล ดวงเดือน เจ้าของธุรกิจซื้อ-ขาย "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตลาดซื้อขาย "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในปัจจุบัน เป็นเพราะโลกโซเชียลมีเดีย ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้ผู้คนที่มีความรัก และสนใจในตัวกระเป๋าแบรนด์เนม เข้าถึงกันและกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากเทียบกับสมัยก่อนแล้ว กระเป๋าแบรนด์เนมแทบจะไม่มีมูลค่าใดๆ เมื่อใช้แล้วก็ไม่สามารถนำไปขายที่ไหนได้ เนื่องจากไม่มีคนต้องการ เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านบาท แตกต่างจากในปัจจุบันที่มีบริการ ทั้งรับซื้อ ขาย ฝากขาย แลกเปลี่ยน รวมไปถึงการจำนำ กระเป๋าแบรนด์เนมมือสองจึงกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล

สาเหตุที่ตลาดซื้อขาย "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในปัจจุบัน เป็นเพราะโลกโซเชียลมีเดีย ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้ผู้คนที่มีความรัก และสนใจในตัวกระเป๋าแบรนด์เนม เข้าถึงกันและกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากเทียบกับสมัยก่อนแล้ว กระเป๋าแบรนด์เนมแทบจะไม่มีมูลค่าใดๆ เมื่อใช้แล้วก็ไม่สามารถนำไปขายที่ไหนได้ เนื่องจากไม่มีคนต้องการ เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านบาท แตกต่างจากในปัจจุบันที่มีบริการ ทั้งรับซื้อ ขาย ฝากขาย แลกเปลี่ยน รวมไปถึงการจำนำ กระเป๋าแบรนด์เนมมือสองจึงกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล

ปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้ "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" มีมูลค่าสูงมากขึ้น นั่นคือ การศึกษาถึงทิศทางที่จะทำให้กระเป๋าจะมีมูลค่าในอนาคต เช่น การทำมาจากวัสดุที่หายาก หรือ เป็นรุ่นที่ผลิตน้อยชิ้น หรือเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ยาก รวมไปถึง แบรนด์ที่กำลังเป็นกระแส อาทิ มีคนดังนำไปใช้ แล้วเกิดเป็นที่ต้องการในตลาด ซึ่งถ้าหากนักลงทุนมีความเข้าใจในปัจจัยทั้งหมดนี้ จะเป็นข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม   โดยรายได้ของธุรกิจนี้ จะเกิดจากส่วนต่าง  ของต้นทุนและรายได้ที่จะได้รับ คล้ายการซื้อขายทองคำ หรือ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนักซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมมืออาชีพ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทต่อเดือน

เว็บไซต์ statista.com ได้แสดงมูลค่าแบรนด์หรูที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับทั่วโลก ในปี 2020 ที่สะท้อนถึงความนิยมของผู้ใช้กระเป๋าและซื้อเพื่อการลงทุน โดยพบว่าแบรนด์อันดับหนึ่ง คือ หลุยส์ วิตตอง มูลค่า 1,611,559 ล้านบาท อันดับสอง ชาเนล มูลค่า 1,124,235 ล้านบาท และอันดับสาม แอร์เมส มูลค่า 1,027,374 ล้านบาท ตามมาด้วยแบรนด์อื่นๆ อย่าง กุชชี่, โรเล็กซ์, คาเทียร์, คริสเตียน ดิออร์, อีฟส์ แซงต์ โลรองต์, เบอร์เบอรี่ และปราด้า

จะเห็นได้ว่า การลงทุนใน "กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง" ไม่ใช่แค่การซื้อมาเก็บ หรือซื้อมาถือ เพื่อรอเพิ่มมูลค่าเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในหลากหลายมิติ เพื่อช่วยสนับสนุนให้การลงทุนกระเป๋ามีความสมดุลทั้งเรื่องความชอบและความมั่งคั่งในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคืออย่าลืมว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง" และต้องคำนึงถึง "จริตในการลงทุน" ของตัวเอง เพื่อช่วยให้ตัวเองมีความสุขระหว่างที่กำลังลงทุนด้วย