ข่าว

"ผู้ประกันตนมาตรา 40" เช็ค 3 ทางเลือก ลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมยาว 6 เดือน

"ผู้ประกันตนมาตรา 40" เช็ค 3 ทางเลือก ลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมยาว 6 เดือน

02 ก.พ. 2565

ได้เฮต่อ "ผู้ประกันตนมาตรา 40" ที่ประชุม ครม. ไฟเขียวเคาะลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมต่ออีก 6 เดือน มี 3 ทางเลือก เช็คได้เลย

(1 ก.พ.2565) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบขยายระยะเวลาการลดอัตราเงินสมทบของ "ผู้ประกันตนมาตรา 40" ที่ต้องจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 - 31 กรกฎาคม 2565 โดยมีอัตราส่งเงินสมทบภายหลังปรับลดทั้ง 3 ทางเลือก ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้

 

  • ทางเลือกที่ 1 ลดเงินสมทบเหลือ 42 บาท จากเดิม 70 บาท โดยได้ประโยชน์ทดแทนใน 3 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิต
  • ทางเลือกที่ 2 ลดเงินสมทบเหลือ 60 บาท จากเดิม 100 บาท โดยได้ประโยชน์ทดแทนใน 4 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และชราภาพ
  • ทางเลือกที่ 3 ลดเงินสมทบเหลือ 180 บาท จากเดิม 300 บาท โดยได้ประโยชน์ทดแทนใน 5 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า แม้การลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40 เป็นเวลา 6 เดือน จะทำให้กองทุนประกันสังคมได้รับเงินสมทบลดลง แต่กองทุนประกันสังคมยังคงมีเงินสมทบเพียงพอ สำหรับรายจ่ายประโยชน์ทดแทนให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะกองทุนในระยะยาว อีกทั้ง การปรับลดเงินสมทบดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกันตนมีกำลังซื้อมากขึ้น อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย

 

สำหรับ ประกันสังคม "ผู้ประกันตนมาตรา 33" ยังคงจ่ายเท่าเดิม ดังนี้

  1. เงินเดือน 10,000 บาท  นำส่งประกันสังคม 10,000 x 5% เท่ากับ 500 บาท
  2. เงินเดือน 15,000 บาท  นำส่งประกันสังคม 15,000 x 5% เท่ากับ 750 บาท
  3. เงินเดือนมากกว่า 15,000 บาท รายงานตัวเลขเงินเดือนตามจริง อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคมจะคำนวณเงินสมทบฐานค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท หากเงินเดือนมากกว่าจำนวนดังกล่าวก็จะถูกหักนำส่งประกันสังคมเท่ากับ 750 บาท ซึ่งเป็นอัตราเพดานสูงสุด 

 

นายจ้างอย่าลืม : นายจ้างและลูกจ้าง จะต้องจ่ายเงินสมทบในอัตราที่เท่ากัน คือ ร้อยละ 5 ต่อเดือน โดยการคำนวณเงินสมทบ จะคำนวณจากค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับต่ำสุดเดือนละ 1,650 บาท สูงสุดเดือนละ 15,000 บาท 

 

หากค่าจ้างไม่ถึง 1,650 บาท ให้คำนวณจากฐานค่าจ้าง 1,650 บาท และหากค่าจ้างเกินกว่า 15,000 บาท ให้คำนวณจากฐานค่าจ้าง 15,000 บาท

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายด่วน 24 ชั่วโมง โทร.1506 หรือเว็บไซต์ www.sso.go.th