รวบแล้วโจรควงปืนจี้ จุดไฟเผา "ร้านสะดวกซื้อ" อ้างพิษโควิด เงินไม่พอใช้จ่าย

จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนข่มขู่ชิงทรัพย์จุดไฟเผาเคาน์เตอร์ชำระเงินภายในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง บริเวณ ถ.มหาวิทยาลัย(ประตู 1) ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เงินสด 6,000 บาท สุรา 1 ขวด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด และกระเป๋าคาดเอวสีแดง 1 ใบ เหตุเกิดเวลาประมาณ 03.04 น. ของวันที่ 20 ม.ค.2565 พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา 

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 สั่งการให้ พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 , พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา , พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3 และชุดสืบสวนของ บก.สส.ภ.3 , กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา และ ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง แกะรอยรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าคนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำเทา หมาบเลขทะเบียน งค 6xxx นครราชสีมา เข้ามาก่อเหตุและหลบหนีโดยมี นายธงชัย หรือเอ๋ อายุ 42 ปี ชาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เป็นผู้ใช้รถยนต์คันดังกล่าว 

ชุดสืบสวนจึงประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาออกหมายจับ โดยศาลอนุมัติหมายจับที่ 34/2565 ลงวันที่ 28 ม.ค.2565 ให้จับนายธงชัย หรือเอ๋ ในข้อหา "วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น , ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ" ซึ่งชุดสืบสวนติดตามจับนายธงชัย ได้บริเวณตลาดนัดแห่งหนึ่ง จ.ชลบุรี 

การสอบสวนนายธงชัย  ผู้ต้องหา ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ โดยตนประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่ง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  และต้องเลี้ยงดูลูกเล็กอีก 2 คน ทำให้เงินไม่เพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว  หลังก่อเหตุนำโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าคาดเอวโยนทิ้งระหว่างหลบหนี จากนั้นนำหมวกนิรภัย เสื้อกางเกงและรองเท้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุไปเผาเพื่อทำลายหลักฐาน 

นอกจากนี้ชุดสืบสวนตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และเศษซากหมวกนิรภัย เสื้อกางเกงรองเท้าแตะที่ถูกเผาทำลายไว้เป็นหลักฐานก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย