ข่าว

ตร. เตือน เลี้ยง "สัตว์ป่าคุ้มครอง" สัตว์อยู่ในกรง คนนอนในคุก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนประชาชนการครอบครอง หรือค้า "สัตว์ป่าคุ้มครอง" โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ

29 ม.ค.2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า ตามที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)  ได้จับกุมผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขน ขายทางช่องทางออนไลน์ ในความผิดฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น
    

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าประชาชนบางส่วนยังไม่ทราบถึงข้อกฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ส่งผลให้มีผู้ประกาศขายสัตว์คุ้มครองผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอเรียนว่า การครอบครอง หรือค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เป็นความผิดตามกฎหมาย โดยมีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้

 

ในส่วนของผู้ครอบครอง หากไม่ได้รับอนุญาต จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ในส่วนของผู้ขาย หากไม่ได้รับอนุญาต จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อ สัตว์ป่าคุ้มครอง ได้จาก กฎกระทรวง กำหนดให้เป็นสัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลได้จาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 561 0777

 


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนระมัดระวังเกี่ยวกับการซื้อขายสัตว์ป่าทั้งวิธีปกติ และวิธีทางออนไลน์ เพราะการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง และการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นความผิดตามกฎหมาย และพี่น้องประชาชนที่พบเห็นการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 สายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ