สาวท้อง 6 เดือน พลาดท่า ถูกมิจฉาชีพ "ตุ๋นขาย จยย.ออนไลน์" เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเก็บทั้งชีวิตให้ สุดท้ายของไม่ได้ แถมถูกเชิดเงินหายเข้ากลีบเมฆ
จากกรณี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 / หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของ บก.สส.ภ.2 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 6 เดือน ว่า ได้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX ปี 2018 สีขาว จากเพจเฟสบุ๊คที่มีชื่อว่า "อดิลก งามฉ่ำ" โดยเฟสบุ๊คดังกล่าว ได้มีการโพสขายรถจักรยานยนต์ ในรูปแบบสาธารณะที่บุคคลทั่วไป สามารถติดต่อซื้อขายได้ "ตุ๋นขาย จยย.ออนไลน์"
และมีการสร้างเครดิตให้ตนเองโดยการนำภาพจากเฟสบุ๊คอื่นๆ มาลงโพส ทำเสมือนว่าเป็นร้านขายรถจักรยานยนต์จริง จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปให้ และเมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดแล้ว ก็ไม่มีการจัดรถจักรยานยนต์ ตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ เมื่อผู้เสียหายติดตามสอบถาม เพื่อขอเงินคืน กลับถูกคนร้ายใช้กลวิธีหลอกลวงผู้เสียหายอีก จนทำให้สูญเงินไปอีก 14,130 บาท จนสุดท้ายคนร้ายก็ไม่ได้จัดส่งรถจักรยานยนต์ ให้แต่อย่างใด และถูกบล็อกและขาดการติดต่อไปในที่สุด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ ตำรวจสืบสวนภาค2 จึงได้ได้เดินทางไปพบผู้เสียหาย เพื่อซักถามข้อมูลจากผู้เสียหาย ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยผู้เสียหายได้ระบุว่า สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อรถจักรยานยนต์ เพื่อให้สามีขับไปทำงาน เพื่อหาเงินไปฝากครรภ์ โดยเงินที่ใช้ซื้อรถจักรยานยนต์คันนี้ ก็เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย ซึ่งถูกคนร้ายหลอกลวงจนหมดตัว เหลือเงินในบัญชีเพียง 1 บาทเท่านั้น ไม่ทราบว่าจะใช้ชีวิตหลังจากนี้อย่างไร
ซึ่งทางผู้เสียหายจึงอยากให้ ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย เพราะได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก รวมทั้งให้ช่วยติดตามเงินที่ถูกคนร้ายโกงไป และนำเงินกลับมาคืนให้ด้วย ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้รับทราบเรื่อง จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ประสานงานร่วมกับ ร่วมกับ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดปฏิบัติการที่ 5 ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับ สภ.แสนสุข จังหวัดชลบุรี
โดยร่วมกันสืบสวน และจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ 2 คน ประกอบด้วย นายศุภกิจ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 28/2565 ลงวันที่ 21 ม.ค. 65 และ น.ส.สุดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 29/2565 ลงวันที่ 21 ม.ค. 65 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฟอกเงิน"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุม น.ส.สุดารัตน์ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 65 เวลา 12.30 น. ส่วน นายศุภกิจ ถูกจับกุมขณะกำลังหลบหนีไปที่ ต.กลาย อ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 65 เวลา 15.00 น.
ในชั้นจับกุม น.ส.สุดารัตน์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าถูกนายศุภกิจฯ ชักชวนให้ส่งเอกสารบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านให้ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินออนไลน์ ตนเองหลงเชื่อและยอมส่งเอกสารให้
ในส่วนของ นายศุภกิจ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า เป็นผู้ที่ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในคดีนี้ โดยใช้บัญชี น.ส.สุดารัตน์ฯ ในการทำธุรกรรมการเงิน โดยกระทำการเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว และมักจะใช้วิธีการเลือกเหยื่อที่หัวอ่อน ขู่ง่าย เหยื่ออยู่ไกลเพื่อยากต่อการติดตาม โดยจะใช้การปลอมตัวเป็น 2 คน ทั้งชายและหญิงสลับไปมา เพื่อให้ผู้ถูกหลอกลวงเกิดความสับสน สาเหตุที่ก่อเหตุเนื่องจากนำเงินไปเล่นการพนัน เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงิน บัญชีเฟสบุ๊คใช้ของเพื่อนที่ยังติดคุกในข้อหา ยาเสพติด
จากการตรวจสอบประวัติของ นายศุภกิจฯ พบว่าเคยต้องโทษคดีฉ้อโกงมาแล้ว 2 คดี ปี 2561 สภ.เบตง จังหวัดยะลา ปี 2561 กับสภ.ธารโต จังหวัดยะลา และปี 2561 ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า สภ.หัวไทร นครศรีธรรมราช ในส่วนของ น.ส.สุดารัตน์ พรมสมบัติ พบประวัติคดี ปี2561ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า สภ.หัวไทร นครศรีธรรมราช
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 / หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT) เปิดเผยว่า แม้มูลค่าความเสียหายในคดีนี้ จะไม่เยอะมาก แต่สำหรับผู้เสียหายรายนี้ ถือว่าเป็นเงินก้อนสุดท้าย ที่มีการสะสมมาทั้งชีวิต ดังนั้น จึงขอฝากเตือนประชาชน ในการเลือกซื้อของออนไลน์ ควรเลือกซื้อกับบุคคลที่น่าเชื่อถือ หรือจ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้าจะปลอดภัยที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง