เร่งแก้ปัญหา"ซิมเถื่อน" ป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์

จากกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ "ดีเอสไอ" ร่วมแถลงข่าว กรณี สำนักงาน"สหวิทยาการคดีพิเศษ" กรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวนพบเครือข่ายจำหน่าย"ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ"แบบลงทะเบียนพร้อมใช้ ทั้งชนิดสำหรับการโทรศัพท์ และชนิดสำหรับใช้อินเทอร์เน็ต ประกอบด้วยเครือข่ายสำคัญเช่น AIS,Dtac,TrueMove จำนวนกว่า 100,000 ชิ้น 

พร้อมยึดเครื่องมือสำหรับการ"ลงทะเบียนออนไลน์" กับผู้ให้บริการเครือข่าย และข้อมูลบัตรประจำตัวของ"คนต่างด้าว"จำนวนมาก โดยพบว่าเป็นการนำข้อมูลของ"คนต่างด้าว" รวมทั้งข้อมูลเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อลงทะเบียน ซึ่งอาจมีการนำไปใช้ในการกระทำผิด โดยเฉพาะแก๊ง Call Center หรือแม้แต่การนำไปใช้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเสนอเป็น"คดีพิเศษ"เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2556 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เชิญผู้แทนสำนักงาน กสทช.และผู้แทนผู้ให้บริหารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประกอบด้วย ค่าย Dtac และ TrueMove มาร่วมประชุม โดยค่าย AIS ไม่ส่งผู้แทน 

ที่ประชุมมีการหารือถึงหลักเกณฑ์ทางกฎหมายและทางเทคนิคในการลงทะเบียน"ซิมการ์ด" และแนวทางแก้ไขปัญหาการนำ"ซิมการ์ด"ไปใช้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะชนิดอินเทอร์เน็ตที่ไปใช้ในการกระทำความผิดด้วยการโทรศัพท์แบบ VoIP หรือการโทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่ออำพรางตัวตนที่แท้จริง รวมถึงการนำหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวไปผูกกับบัญชีเงินฝากที่เปิดกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อใช้ในการรับโอนเงินจากการหลอกลวง และการทำธุรกรรมผ่านระบบ i-Banking โดยผู้แทนเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสองราย พร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคและ"เครื่องมือพิเศษ" เพื่อร่วมตรวจสอบ"ซิมการ์ด"ที่ใช้เป็นหลักฐานในคดี รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เพื่อสนับสนุนการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นปัญหาต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศ

ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการการแก้ปัญหาด้านการเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับธนาคารพาณิชย์และสำนักงาน ปปง. และการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือเชื่อมโยงกับบัญชี อันเกี่ยวข้องกับสำนักงาน กสทช.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกัน จึงควรเชิญผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ผู้แทนสำนักงาน ปปง. รวมทั้งผู้แทน สำนักงาน กสทช. ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในสัปดาห์หน้า รวมทั้งได้มอบหมายให้สำนักงาน"สหวิทยาการคดีพิเศษ" กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ"ไซเบอร์" สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพต่อไป