รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดจดหมายพ่อจาก "ซาอุดีอาระเบีย" ขายแรงงานส่งลูกเรียน เลี้ยงครอบครัวจนประสบความสำเร็จ
นาย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ภาพจดหมายจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผู้เป็นบิดาของเขาส่งมาหาพี่สาว มีเนื้อหาว่า จดหมายฉบับนี้ คือฉบับแรกที่พ่อเขียนตอบกลับมาให้พี่สาว ระหว่างที่พ่อไปเป็นกรรมกรในซาอุดิอาระเบีย เมื่อ 37 ปีก่อน ถึงแม้บ้านเราจะไม่ร่ำรวย แต่ความรักที่พ่อมีต่อพวกเราทั้ง 4 คน (พี่สาว 2 คน น้อง สาว 1 คน) มันสามารถทดแทน และเติมเต็มทุกความขาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ พ่อเรียนจบ ป.4 ที่โรงเรียนวัดแจ้งเจริญดอน (โรงเรียนเดียวกับผม) จึงสามารถอ่านออกเขียนได้ และบรรยายความรู้สึกคิดถึงที่มีต่อพี่สาวและคนในครอบครัวได้อย่างลึกซึ้ง สำหรับ ด.ญ.โสภิต ชมกลิ่น หรือ "พี่โส" ที่พ่อจ่าหน้าซองถึง คือพี่สาวคนที่ 2 ในวัยเด็ก "พี่โส" ต้องไปอยู่กับครอบครัวของ "ลุงสม + ป้าบล" ตั้งแต่เล็กๆ แม่ยกให้เอาไปช่วยเลี้ยง เพราะตอนนั้นบ้านเราค่อนข้างมีภาระเยอะ ซึ่ง "พี่โส" เรียนเก่งมากๆ สร้างความภาคภูมิใจให้พ่อตามรายละเอียดใน จม. ที่เขียนมา สุดท้ายพี่โส ก็เรียนจบ ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนตัวเขาเอง หัวไม่ดีเหมือนพี่น้อง เรียนจบแค่อาชีวะ แล้วคิดทำธุรกิจเพราะอยากรวย อยากมีเงิน อยากลืมตาอ้าปาก เพื่อช่วยเหลือ พ่อ-แม่ จึงเพิ่งจะมาเรียนจบปริญญาตรี ก็ตอนที่อายุเยอะ และทำธุรกิจประสบผลสำเร็จแล้ว ไม่เคยลืมบุญคุณพ่อ ที่เสียสละไปอยู่ไกลบ้านไกลเมือง กลางวันร้อนสุดๆ กลางคืนหนาวสุดๆ เพื่อหาเงินส่งมาและไม่เคยลืมบุญคุณรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ที่ทำให้ครอบครัวเราลืมตาอ้าปากได้
เมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรวมถึงได้รับโอกาสจาก ลุงตู่ ลุงป้อม ตั้งใจจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์ และพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ
การเดือนทางเยือน ซาอุดีอาระเบีย ของนายกรัฐมนตรี และคณะ ซึ่งมีนาย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงแรงงานร่วมด้วยนั้น ทางการซาอุดิอาระเบีย มีความประสงค์จะรับแรงงานฝีมือ นับล้านตำแหน่ง นับเป็นโอกาศอันดี ที่แรงงานไทย จะกลับไปขุดทองจากซาอุดีอาระเบีย เหมือนเช่น เมื่อกว่าสามสิบปี ก่อนทั้งสองประเทศจะยุติความสัมพันธ์ จากคดีความที่เกี่ยวกับสมบัติของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย และการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักธุระกิจและนักการทูติ ก่อนจะกลับมาฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูติกันอีกครั้งจากการเดินทางกระชับความสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรีและคณะระหว่าง 25-26 มกราคมที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง