สั่งสอบปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี หลังถูกชาวบ้านร้องเรียนผ่าน ศรีสุวรรณ | คมชัดลึก

จากกรณีเกษตรกรจังหวัดราชบุรี ร้องเรียนไปยัง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กรณีมีการเคลื่อนย้ายหมูตายโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นจำนวนมาก และมีการเคลื่อนย้ายเกือบทุกวัน เพื่อนำไปเข้าโรงชำแหละ  โดยชาวบ้านหวั่นเกรงว่าหมูเหล่านั้นจะตายด้วยโรคอหิวาต์แอฟริกา หรือ ASF

ทั้งนี้ตัวแทนชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน จาก 4 อำเภอ 5 ตำบล คือ ต.ห้วยไผ่ ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี , ต.รางบัว อ.จอมบึง , ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง และ ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ได้รวมตัวกันเพื่อขอพบปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา  เพื่อให้ชี้แจงและลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสุกร และโรงชำแหละในพื้นที่ โดยนำพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายและวิดีโอรถขนหมูตายจำนวนมากที่ชาวบ้านพบในท้องที่ต่าง ๆ ไปมอบให้

แต่ปศุสัตว์จังหวัดราชบุรีกลับไม่ยอมออกมารับเรื่องและชี้แจง เพียงส่งตัวแทนมารับเรื่องกับทางชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ  จึงรวมตัวกันเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดราชบุรี  เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้นแทน  

ตัวแทนชาวบ้านเล่าว่า เห็นการขนหมูตายออกมาจากฟาร์มเป็นประจำ ยิ่งช่วงนี้จะเห็นบ่อยและเยอะมาก  จึงอยากถามว่าทางปศุสัตว์จังหวัดไม่รู้เลยหรือว่ามีการขนหมูตายออกมาจากฟาร์มเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ชาวบ้านยังสามารถถ่ายภาพไว้ได้ ซึ่งการขนย้ายหมูตายตามกฎหมายจะต้องแจ้งปศุสัตว์ก่อน  ขณะนี้ชาวบ้านเห็นเกือบทุกวันและบันทึกภาพได้  แต่ปศุสัตว์กลับบอกไม่มี  ไม่ได้รับแจ้ง 

ล่าสุดในรายการ "คมชัดลึก" ทางเนชั่นทีวี น.สพ.สรวิช ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้สัมภาษณ์ นายวรวิทย์ ฉิมมณี ผู้ดำเนินรายการ ถึงเรื่องดังกล่าว ว่า ความจริงแล้วก็ไม่ทราบว่าภาพดังกล่าวนั้นถ่ายไว้เมื่อไหร่ ที่ไหน แต่หลังจากตนเองได้ทราบข่าวแล้ว ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี เพราะปศุสัตว์จังหวัดก็คือตัวแทนอธิบดีในจังหวัดนั้น ๆ ต้องรับผิดชอบกฎหมายทั้งหมด ต้องรับรู้เรื่องนี้ ในจังหวัดราชบุรีมีการเลี้ยงหมูถึงเกือบ 2 ล้านตัว ฟาร์มเยอะ เส้นทางก็เยอะ อาจจะไม่เห็นก็ได้ ก็จะสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริง

อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่า กรมปศุสัตว์จะดำเนินการด้วยความโปรงใส ตรวจสอบได้ และยึดมั่นตามกฎหมายทุกอย่าง การเคลื่อนย้ายสุกรทุกครั้งจะต้องมีเอกสารกำกับ มีใบเคลื่อนย้าย กรณีดังกล่าวกรมปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน