ข่าว

"รวบยกแก๊ง" ขบวนการ "โจรกรรมรถข้ามชาติ" พบเซ็งลี้ ส่งขายนายทุนชาวเขมร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางเสาธง นำกำลังบุก "รวบยกแก๊ง" 3 คนร้าย ขบวนการ "โจรกรรมรถข้ามชาติ" พบส่งขายนายทุนชาวกัมพูชา ประวัติสุดโชกโชน ก่อเหตุมานับครั้งไม่ถ้วน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ พร้อมด้วยกำลัง เข้าจับกุม 3 ผู้ต้องหา "รวบยกแก๊ง" ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วย นายปราโมทย์ หรือโมทย์ อายุ 40 ปี , นายสุรศักดิ์ หรือเจี๊ยบ อายุ 41 ปี และนางสุคนธ์ หรืออ้อย อายุ 57 ปี "โจรกรรมรถข้ามชาติ" ซึ่งเป็นนายหน้าที่คอยติดต่อกับนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ในการซื้อขายรถข้ามชาติ และตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน รถยนต์ จำนวน 2 คัน อุปกรณ์เครื่องมือใช้ในการต่อสายตรง เพื่อติดเครื่องรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ จํานวน 4 เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ จํานวน  6 แผ่น สมุดบัญชีของธนาคารต่าง ๆ รวม 2 เล่ม ซึ่งเป็นสมุดบัญชีที่ระบุชื่อของชาวต่างชาติ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 164/51 ม.2 หมู่บ้านศรีเทพไทย ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา 

 

"รวบยกแก๊ง" ขบวนการ "โจรกรรมรถข้ามชาติ" พบเซ็งลี้ ส่งขายนายทุนชาวเขมร

  

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ที่จอดไว้ในมุมอับหน้าหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง  จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้าย เอาไว้ได้ พบว่าคนร้ายเป็นชาย 2 คน ได้ขับรถยนต์มาจอดที่หน้าหอพัก และเมื่อสบโอกาส โดยหนึ่งในคนร้ายได้ลงมาจากรถเข้ามาก่อเหตุ โดยใช้เวลาไม่กี่นาที ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไป 

 

 

หลังเกิดเหตุผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้าย และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะทำนองเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง จึงได้แกะรอยเส้นทางคนร้าย และรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ พบว่าเป็นแผ่นป่ายทะเบียนปลอม ฝ่ายสืบสวนจึงแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางจนกระทั่งพบว่า รถยนต์คันก่อเหตุ ได้หลบหนีเข้าไปในเขตพื้นที่อำเภอบางประกง  จึงแกะรอยติดตาม 

  

จนกระทั่งทราบว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ไปพักอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านศรีเทพไทย ม.2 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงแบ่งกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ไม่ห่างจากบ้านหลังดังกล่าวมากนักพักและพบเห็นเสื้อผ้าชุดที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุแขวนอยู่ในบ้านพัก จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา  เข้าตรวจค้นภายในบ้านดังกล่าว ได้ไปพบกับนายปราโมทย์  นายสุรศักดิ์  และนางสุคนธ์ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมของกลางทั้งหมดอยู่ภายในบ้าน จึงได้ทำการจรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง ก่อนคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 มาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางเสาธง 

 
จากการสอบสวนนายปราโมทย์ฯ และนายสุรศักดิ์ฯ ได้ให้ยอมรับว่า ได้ร่วมกันวางแผนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์จริง โดยใช้รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า  โซลูน่า สีน้ำตาล และรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง เป็นพาหนะในการก่อเหตุ โดยทุกครั้งที่ก่อเหตุจะติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม โดยนายปราโมทย์ฯ และนายสุรศักดิ์ฯ จะสับเปลี่ยนกันขับ หากนายปราโมทย์ฯ เป็นผู้ขับ นายสุรศักดิ์ฯ จะเป็นผู้ลงมือลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และหากนายสุรศักดิ์ ฯ เป็นผู้ขับนายปราโมทย์ฯ ก็จะเป็นคนลงมือไปลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ 
 

 

หลังก่อเหตุก็จะนำรถจักรยานยนต์ ที่ขโมยมาซุกซ่อนไว้บริเวณบ้านหลังดังกล่าว โดยนายปราโมทย์ฯ จะส่งรูปรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้กับ นางสุคนธ์ หรือ เจ้ หรือ อ้อย ดูผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อส่งต่อให้ นายทุนชาวกัมพูชาเป็นคนตีราคา เมื่อทําการซื้อขายเป็นที่เรียบร้อย นายปราโมทย์ฯ และนางสุคนธ์ฯ จะนัดหมายส่งมอบรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยวัดบางเกลือ ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หรือบริเวณอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง 

 

โดย นางสุคนธ์ฯ จะนั่งโดยสารรถตู้ประจําทาง มาลงบริเวณที่นัดหมาย และจะนําเงินมาให้นายปราโมทย์ฯ ครั้ง ประมาณ 8,000 – 20,000 บาท โดยการจ่ายเป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชี น.ส.กุ้ง (MRS.KOUNG PHETPOUANGPHANH) สัญชาติลาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายปราโมทย์ฯ และนางสุคนธ์ฯ จะเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ไปส่งให้กับนายทุน โดยนายปราโมทย์ฯ และนายสุรศักดิ์ฯ ยังได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวในเขตพื้นที่ สภ.บางเสาธง มาแล้วจํานวนหลายครั้ง และก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ในอีกหลายท้องที่ ทั้งในเขต จ.สมุทรปราการ เขตนครบาล และเขตตํารวจภูธร ภาค 2 

  

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทําความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป "รวบยกแก๊ง

 

 

logoline