ข่าว

รอง โฆษก ตร. เตือนภัย "ข่าวปลอม" ย้ำ "น้ำโซดา" ไม่ได้ช่วยย่อยอาหาร ตามข่าวลือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รอง โฆษก ตร. ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยพบข่าวปลอม 1 กรณี ย้ำ "น้ำโซดา" ไม่ได้ช่วยย่อยอาหาร ตามข่าวลือ

(23 ม.ค.65)  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่ามี "ข่าวปลอม" เพิ่มเติม 1 กรณีคือ กรณีที่ได้มีการแชร์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ถึงประเด็นเรื่อง  "น้ำโซดา" ช่วยทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

 

รอง โฆษก ตร. เตือนภัย "ข่าวปลอม" ย้ำ "น้ำโซดา" ไม่ได้ช่วยย่อยอาหาร ตามข่าวลือ
 

กรณีข้อความชวนเชื่อเกี่ยวกับน้ำโซดา ที่ระบุว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืดจากอาหารไม่ย่อยได้ เพราะการดื่มน้ำโซดา จะช่วยให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้นนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ชี้แจงว่า โซดา คือ น้ำ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งไม่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร อีกทั้งยังไม่มีการศึกษาใดยืนยันได้ว่าการดื่มโซดาช่วยย่อยอาหารได้ ซึ่งโซดามีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย ไม่มีฤทธิ์ในการย่อยอาหาร 

 

นอกจากนี้แล้วความเป็นกรดของโซดาเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งเสริมให้เกิดกรดไหลย้อน และฟันผุ ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารควรหลีกเลี่ยงการดื่มโซดา แต่อย่างไรก็ตามสามารถดื่มโซดาได้ในปริมาณพอเหมาะ ไม่ควรดื่มมากเกินไปเพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นได้ และเลือกดื่มโซดาที่ได้รับมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาการและยา (อย.) โดยสังเกตเครื่องหมาย อย.ก่อนซื้อทุกครั้ง

 

รอง โฆษก ตร. เตือนภัย "ข่าวปลอม" ย้ำ "น้ำโซดา" ไม่ได้ช่วยย่อยอาหาร ตามข่าวลือ

 

ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือโทร. 1556
 

 

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : โซดาไม่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร และยังไม่มีการศึกษาใดยืนยันได้ว่าการดื่มโซดาช่วยย่อยอาหารได้ 

 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

 

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน  ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

logoline