ข่าว

เช็คชัด ๆ ติด "โควิด" รักษาตัวที่บ้าน เบิกค่าอาหารได้ 400 แนะวิธีทำอย่างไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้หรือไม่ติดโควิดเบิกเงินค่าอาหารได้ สปสช. ชี้แจงแนวทาง ติด "โควิด" รักษาตัวที่บ้าน เบิกค่าอาหารได้ 400 บาท/วัน แนะวิธีทำอย่างไร

พญ.กฤติยา ศรีประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สายงานบริหารกองทุน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ยุคนี้ เข้าสู่ยุคของสายพันธุ์ "โอไมครอน" ซึ่งส่วนมากผู้ติดเชื้อ 90-95% ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย โดยทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศนโยบายรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation และการรักษา
ในระบบชุมชน (Community Isolation หรือ CI) เป็นทางเลือกแรก ขณะที่ สปสช.เป็นกองทุนสำหรับจ่ายค่ารักษา รวมถึงค่าอาหารด้วยในราคา 400 บาท/วัน แบ่งเป็นดังนี้

 

  • กรณีเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลรวมค่าอาหาร จะจ่ายอยู่ 1,000 บาท/วัน
  • จัดบริการรักษาพยาบาลอย่างเดียว ไม่รวมค่าอาหาร จะจ่ายที่ 600/วัน รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 10 วัน 

 

อย่างไรก็ตาม จะมีการปรับหลักเกณฑ์ในวันที่ 1 มี.ค. 2565 นี้ โดยปรับเป็นการเหมาจ่ายต่อการให้บริการผู้ป่วย 1 ราย กรณีรักษา 7 วันขึ้นไป จ่ายค่าดูแลรวมค่าอาหาร 12,000 บาท แต่หากไม่รวมค่าอาหาร จะอยู่ที่ 8,000 บาท

 

เช็คชัด ๆ ติด "โควิด" รักษาตัวที่บ้าน เบิกค่าอาหารได้ 400 แนะวิธีทำอย่างไร

พญ.กฤติยา กล่าวจากการติดตามประเมินผลการจัดส่งอาหารให้ผู้ติดเชื้อโควิด ที่เข้าระบบ "รักษาตัวที่บ้าน" Home Isolation ในการระบาดระลอกที่ 4 เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา พบปัญหาว่ามีผู้ป่วย Home Isolation 27.76% ที่ไม่ได้รับอาหารเลย อีก 5.6% ได้รับอาหารเป็นบางวัน และอีก 66.63% ได้รับอาหารทุกวัน ซึ่งในการรับมือการระบาดระลอกที่ 5 นี้ สปสช.พยายามลดส่วนที่ไม่ได้รับอาหารให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการเบิกจ่ายค่าอาหารจากผู้ประกอบการ เช่น ไม่พบหลักฐานการจัดส่งอาหาร หรือรับอาหารตามวันที่ขอเบิก หรือ มีหลักฐานการจัดซื้ออาหาร แต่ไม่พบหลักฐานการบริการอาหารรายบุคคล หรือส่งภาพหลักฐานหน้าจอการสนทนาทางไลน์ ซึ่งไม่มีวันที่ และ Line ID ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นผู้ติดเชื้อจริง

 

ดังนั้น เพื่อความราบรื่นในการเบิกจ่ายค่าอาหาร ผู้ประกอบการควรมีหลักฐานที่บ่งบอกชื่อ-นามสกุลผู้ติดเชื้อ หรือหลักฐานการจัดอาหารจากผู้ผลิตอาหาร จัดส่งให้ผู้ติดเชื้อตามจำนวนวันที่เบิกเป็นรายบุคคล หรือหลักฐานการรับอาหารของผู้ติดเชื้อหรือญาติ ทั้งนี้ เพื่อให้การจ่ายเงินค่าอาหารเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ด้าน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ในส่วนของการจัดส่งอาหารแก่ผู้ป่วยในระบบ Home Isolation ทางสมาคมฯสามารถเป็นตัวกลางแก่หน่วยบริการในการจัดหาอาหาร และการขนส่ง ซึ่งนอกจากประกอบอาหาร และจัดส่งแล้ว สมาคมฯยังมีแพล็ตฟอร์มอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น มีแอปพลิเคชัน "ปันสุข" ซึ่งผู้ป่วยสามารถติดตามได้ว่า อาหารส่งถึงไหนแล้ว แพ้อาหารอะไรก็สามารถแจ้งได้ เมนูต่าง ๆ อิงกับมาตรฐานโภชนาการ ได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน มีบริการ Call Center และมีการเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ ที่ สปสช.หรือ กระทรวงสาธารณสุข สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ 12 เดือน

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาในการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา พบว่า รัฐสนับสนุนค่าอาหารที่ 400 บาท/3 มื้อ แต่มีผู้ที่ได้รับงานจากโรงพยาบาลต่าง ๆ แล้วมาจ้างต่อในราคา 145 บาท/3 มื้อ หรือมื้อละ 45-50 บาท จึงทำให้บางส่วนได้อาหารตามราคา ดังนั้น ทั้งผู้ป่วยและผู้ประกอบการควรจะได้ทราบสิทธิที่รัฐบาลดูแล

 

นอกจากนี้ ในขั้นตอนในการส่งมอบงาน ต้องมีการใช้เอกสารจำนวนมากตามระบบราชการ มีต้นทุนค่าบริหารจัดการ ดังนั้น จึงอยากฝาก สปสช. กำหนดเป็นนโยบายในภาพใหญ่ให้สามารถใช้ระบบออนไลน์ในการส่งมอบงานได้ รวมทั้งระยะเวลาการเบิกเงิน 60 วันก็ค่อนข้างนาน

 

ทั้งนี้ หากมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมให้บริการผู้ป่วย Home Isolation กับทางสมาคมฯ หรือมีโรงพยาบาล ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ต้องการให้สมาคมฯประสานงานกับผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ให้ สามารถส่งข้อความมาได้ที่ inbox ข้อความของเพจเฟสบุ๊ก สมาคมภัตตาคารไทย - Thai Restaurant Association ซึ่งจะมีแอดมินหลายคนคอยดูแลประสานงานต่าง ๆ ให้ 

 


ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

 

 

logoline