"ศ.ดร.กนก" ฟาด ทปอ.ไร้หัวใจ ปล่อยแอดมิน ตอบปัญหา "TCAS65" เหมือนหุ่นยนต์ ไม่เห็นความสำคัญของอนาคตเด็ก แก้ปัญหาแบบปัดความรับผิดชอบ แถมไม่คิดปรับปรุง ถาม เพราะไร้หัวใจ จึงสัมผัสถึงความทุกข์ของเด็กไม่ได้ใช่มั้ย จี้รื้อระบบการทำงาน ทปอ.
ระบบรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง ประจำปีการศึกษา 2565 หรือ "TCAS65" กลายเป็นเผือกร้อนในช่วงสถานการณ์การแพร่โรคโควิด-19
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนักวิชาการด้านการศึกษา กล่าวถึงกรณี เกิดกระแสดรามาไม่พอใจคำตอบจากเพจ Mytcas.com ซึ่งเป็นเพจรวบรวมข้อมูลประชาสัมพันธ์ ระบบการสอบเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา ระบบ TCAS ได้ออกมาอัปเดตกำหนดการของ "TCAS65" ทั้งการสอบ GAT/PAT และการสอบวิชาสามัญ พร้อมกับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับสนามสอบต่างๆ
รวมทั้งอัปเดตคำแนะนำสำหรับผู้เข้าสอบ เนื่องจากมีการให้คำตอบนักเรียนที่เข้าไปสอบถามว่า หากติดโควิดก่อนวันสอบ (หายไม่ทันวันสอบ) จะต้องทำอย่างไร ซึ่งทางแอดมินตอบกลับมาว่า สอบปีหน้า หรือไม่ก็เลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนสอบ
จนทำให้เกิดการติดแฮชแทกแบน ทปอ #แบนทปอพุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 และยังยืนยันจะไม่การปรับแนวทางการให้คำตอบด้วยว่า เป็นการตอบเหมือนเครื่องยนต์ตอบอัตโนมัติที่ไม่มีชีวิตจิตใจ
คำถามคือประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หรือ ทปอ.เปิดให้เกิดการตอบเช่นนี้ได้อย่างไร คำตอบสะท้อนว่าทปอ.ไม่เข้าใจความสำคัญของการสอบต่อนักเรียนโดยเฉพาะต่ออนาคตของพวกเขา
ระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าควรต้องรื้อใหม่ อยากจะบอกต่อว่าระบบการทำงานของทปอ.ควรต้องรื้อใหม่ควบคู่ไปพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยไม่มีวันที่จะสร้างความถูกต้องและเป็นธรรมให้กับนักเรียนและสังคม
“ในสภาวะที่นักเรียนต้องเรียนออนไลน์เพราะโควิดเป็นปี บวกกับการกดดันทางจิตใจเรื่องการเรียนและการแข่งขันเพื่อเข้ามหาวิทยาวัยจนเกิดความเครียดต่อเนื่อง สภาพจิตใจของนักเรียนเช่นนี้ ถ้าทปอ.จะคิดถึงจิตใจของนักเรียนบ้าง เหตุการณ์ตอบคำถามที่ไร้หัวใจเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น
การจัดการกับปัญหาก็ควรจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่นักเรียน เช่น มีคำถามว่าทำไมไม่ตรวจเอทีเค ก็ตอบกลับมาว่าเป็นภาระมาก ทั้งที่ความเป็นจริงหากรัฐให้ความสำคัญกับอนาคตชาติ ก็ต้องลงทุนในเรื่องนี้
ผู้บริหาร ทปอ.ทำอะไรอยู่จึงคิดกันได้แค่นี้ ผมคิดว่าการตรวจเอทีเคถ้าจะทำจริงรัฐจ่ายครึ่งผู้ปกครองจ่ายครึ่งก็ยังพอไปได้ แต่นี่กลับตอบแบบบัวไม่เหลือเยื่อใย มันสะเทือนจิตใจ หรือพวกท่านไม่มีหัวใจจึงสัมผัสถึงความทุกข์ของเด็กไม่ได้” ศ.ดร.กนก กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง