พาณิชย์สงขลา เอาผิดห้องเย็น ไม่แจ้งสต๊อก "เนื้อหมู" 2 แสนโล
พาณิชย์จังหวัดสงขลาแจ้งความเอาผิดห้องเย็น ไม่แจ้งสต๊อก "เนื้อหมู" 2 แสนกิโลกรัม ทำบัญชีไม่ตรงกับปริมาณจริง เข้าข่ายผิด พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
จากกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา , ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา , เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งใน อ.จะนะ จ.สงขลา พบว่ามีเนื้อหมูคงคลังอยู่ถึง 201,650 กิโลกรัม ทางปศุสัตว์จังหวัดจึงสั่งอายัดไว้รอการตรวจสอบ ซึ่งพบว่าเนื้อหมูดังกล่าวเป็นของ บริษัท เบทาโกร เกษตรอุตสาหกรรม พัทลุง
ต่อมาทางเครือเบทาโกรได้ออกแถลงการณ์ว่า ได้แจ้งข้อมูลปริมาณเนื้อหมูที่เก็บในห้องเย็นดังกล่าว ต่อกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ว่ามีจำนวน 211,361 กิโลกรัม ตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่ระบุให้ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งสต๊อกให้กรมการค้าภายในรับทราบ รวมทั้งแจ้งราคาทุก 7 วัน โดยเริ่มวันที่ 10 มกราคม 2565
ในส่วนของห้องเย็น พบว่ามีการจัดทำบัญชีและแจ้งปริมาณสินค้า เนื้อหมู ไม่ตรงกับสินค้าที่มีการตรวจสอบ ณ สถานที่ฝากเก็บสินค้า ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลาจึงทำบันทึกการตรวจสอบและไปแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอจะนะ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาไม่แจ้งปริมาณในครอบครองกับห้องเย็นรับฝาก ซึ่งเป็นผู้ครอบครองแทนผู้อื่นตามข้อ 3 ในประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่องการแจ้งปริมาณราคาสถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีสินค้าสุกร เนื้อสุกร มีความผิดตามมาตรา 25 พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
ทั้งนี้ตามประกาศ กกร. หากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ประกอบการรายใด ทั้งผู้เลี้ยง ผู้ครองครอง ห้องเย็น ไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้หากพบเห็นว่ามีการกักตุน จะมีโทษตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
หากประชาชนพบเห็นการกักตุน หรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ