ชาวเบตง แห่จับเมนูเด็ด 2 ปีมีครั้ง สร้างรายได้ช่วงยางพาราราคาตกต่ำ

วันที่ 20 ม.ค.65 ชาวบ้านแห่จับแมลงจักจั่นลงกินน้ำ ซึ่งปีนี้จำนวนมาก คาดความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ถิ่นที่อยู่ริมถนน สร้างรายได้ช่วงโควิด-19 

โดยช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ชาวบ้าน ใน อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างนำไฟฉายส่องสว่าง ถุงพลาสติก ขวดน้ำเปล่า แห่ออกมาจับจักจั่นที่เกาะตามเสาไฟฟ้า ตามพุ่มไม้ที่มีแสงไฟตกแต่งยามค่ำคืน รวมถึงตามอาคาร ในเขตเทศบาลเมืองเบตง ซึ่ง 2 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่จักจั่นออกมาจากป่า

ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ก่อนที่ฤดูร้อนจะมาถึง จะเป็นช่วงที่เห็นจักจั่นมากที่สุด โดยจักจั่นจะออกมาเหนือพื้นดินและไต่ขึ้นไปเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ต่างๆ ก่อนลอกคราบกลายเป็นจักจั่นอย่างสมบูรณ์ และกินน้ำเลี้ยงของต้นไม้เป็นอาหาร ซึ่งช่วงที่โตเต็มวัยจะมีระยะเวลาประมาณ 4 เดือนจะได้ยินเสียงร้องของจักจั่นดังระงมไปทั่วบริเวณ

ชาวบ้านจะใช้แสงไฟนีออนสีม่วง มาล่อจักจั่นให้มาเล่นไฟ และเลือกจับเฉพาะจักจั่นที่มีตัวสีดำ ท้องสีส้ม ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีเนื้อ มีความมัน กว่าจักจั่นสายพันธุ์อื่น และขายจักจั่นตัวเป็นๆ ตัวละ 2 - 3 บาท ส่วนตัวจักจั่น ที่ผ่านการทอดกรอบ ก็จะคิด ตัวละ 5 บาท ในแต่ละคืนสามารถจับจักจั่นได้ 500-1,000 ตัว มีรายได้ประมาณ 1,500 – 2,500 บาทต่อคืน

หากเป็นคืนที่มีอากาศเย็นพอดี จักจั่น จะออกมาเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการหารายได้เสริมในช่วงราคายางตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้มีรายได้มาเสริม

สำหรับจักจั่น สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู ทั้งทอด คั่ว หมก ยำ แกง และนำมาทำเมี่ยง กินกับข้าว และกับแกล้ม ยังจัดเป็นอาหารยาอีกด้วย

ส่วนขั้นตอนการนำไปปรุงอาหาร ก่อนอื่นต้องเด็ดปีกออกแล้ว นำไปล้างน้ำสะอาด ประมาณ 2 -3 รอบ แล้วสามารถนำไปทำเมนูจักจั่นได้ตามความชอบ แต่ที่เมนูชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเบตงชื่นชอบมากที่สุด คือ จักจั่นทอดกรอบหยอดซอส โรยพริกไทย ถือเป็นเมนูเด็ดในช่วงนี้ 

ภาพ/ข่าว เจษฎา สิริโยทัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค อ.เบตง จ.ยะลา