ข่าว

กระแส "นะหน้าทอง" ยังไม่จบ หลวงพี่น้ำฝน ว่าอย่างไรบ้าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดยในการทำพิธีเมื่อได้รับพร ญาติโยมก็จะได้รับขวัญและกำลังใจ เราไม่มีการสวดใส่บทให้ร่ำรวย หรือเป็นทางมืดดำที่เป็นอวิชา แน่นอน

กรณีลง "นะหน้าทอง" แบบปิดทองเต็มหน้า ของวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี จนมีประชาชนเดินทางเข้ามาจองคิวกันเป็นจำนวนมาก กระทั่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และหวั่นจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึง บางคน มองว่า เป็นการผิดหลักพระธรรมวินัย เรียกร้องให้ ลงดาบกับพระที่มีการกระทำในลักษณะดังกล่าว  

 

เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.65 ) พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้แสดงความเห็น สำหรับประเด็นที่เป็นข่าว ลงนะหน้าทองแบบที่มีการนำทองคำเปลว มาปิดทั้งใบหน้า ว่า ส่วนตัวไม่เคยร่ำเรียนวิชานี้ และไม่เคยมีการทำแบบนี้ แต่เคยเห็น ครั้งที่ได้รับกิจนิมนต์ไปต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ฮ่องกง ซึ่งมีคนจัดงานจะมีการนำทองมาปิดทั้งหน้ากับผู้ที่เข้าร่วมพิธี โดยเพื่อเป็นการเรียกราคา และสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ

กระแส "นะหน้าทอง" ยังไม่จบ หลวงพี่น้ำฝน ว่าอย่างไรบ้าง

แต่วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจาก หลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จะมีการปิดทองแค่บางส่วน คือส่วนที่เป็นหน้าผาก ริมฝีปากและที่มือ เท่านั้น และสิ่งที่จัดพิธีนี้เป็นวิชาที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ไว้ เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมา โดยเป้าหมายคือการให้กำลังใจในการดำเนินชีวิตของญาติโยมเท่านั้น 

 

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่มีการกลัวว่า การลงนะหน้าทองจะเป็นแหล่งแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขอบอกว่า ที่วัดไผ่ล้อมได้มีมาตรการการป้องกันที่เข้มข้น โดยจะมีการลงอักขระยันต์ ที่หน้าผากและริมฝีปาก แต่ได้ตัดกระบวนการตรงการปิดทองจุดนั้นไป แต่ใช้เป็นการสวมหน้ากากอนามัยผ้ายันต์มัสลีน หน้า 4 ชั้นทดแทน เพราะถือว่ามีลายยันต์อยู่แล้ว และการเข้าร่วมพิธีจะมีการกำหนดในการจองคิว เพียงรอบละ 10-20 คนเท่านั้น ซึ่งจะไม่อยู่ในที่อับ เพื่อป้องกันตามมาตรการของจังหวัดนครปฐม

กระแส "นะหน้าทอง" ยังไม่จบ หลวงพี่น้ำฝน ว่าอย่างไรบ้าง

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสที่มีการโจมตีว่าเป็นความงมงาย และเป็นแหล่งเรียก เงินทองจากญาติโยม เรื่องนี้ใครทำอะไรไว้ไม่นานผลกรรมก็จะกลับมาหาอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งที่วัดไผ่ล้อม อาตมาได้ใช้หลักคาถาบูชาชั้นสูง โดยเฉพาะที่หน้าผาก ทั้งบทสวดเชิญพระบารมี 30 ทัศน์ และบทสวดมงกุฏพระพุทธเจ้า นี่คือมงคลทั้งสิ้น

 

เพราะนำบทสวดที่รำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาไว้ที่หน้าที่สูง และให้ผู้เข้ารับการเจิมได้มีการตั้งจิตอธิษฐาน ให้เกิดความโชคดี อาตมามีขั้วบวก ญาติโยมที่มาร่วมพิธีมีขั้วลบ เมื่อมาประสานกัน ก็จะมีกำลังบางอย่าง โดยในการทำพิธีเมื่อได้รับพร ญาติโยมก็จะได้รับขวัญและกำลังใจ เราไม่มีการสวดใส่บทให้ร่ำรวย หรือเป็นทางมืดดำที่เป็นอวิชา แน่นอน

 

ส่วนที่มีคนมากดดันมหาเถรสมาคม เพื่อให้พระผู้ใหญ่ออกมากำราบเรื่องนี้ สำหรับอาตมาไม่เคย ให้ค่าคนๆนี้เลย เพราะถ้าเขาพบคนที่หลอกลวง ทำให้ญาติโยมเสียทรัพย์ เขาก็ควรจะไปจัดการได้เลย อาตมาก็เห็นว่าดี แต่ส่วนที่จะมาจับมากดดันพระที่มีการจัดทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ในสังคมก็แล้วแต่เขา เพราะพระผู้ใหญ่ท่านทราบดีว่าใครทำอะไร

 

ส่วนการลงนะหน้าทองของวัด ค่าครูในการทำพิธี ก็นำมาจัดสร้างพัฒนาวัด โดยเฉพาะกองทุนสวดเผาฟรี มีการช่วยเหลือคนป่วยมาตลอด ก็เหมือนกับการทำสังฆทานเพื่อสิริมงคล การลงนะหน้าทองก็ให้ถือหลักว่าได้รำลึกถึงความดีและสืบสานพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง 

 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้ายว่า ประชาชนต้องศึกษาและใช้หลัก คิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างมีเหตุผล สิ่งที่สำคัญคือการมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต โดยครูที่สำคัญที่หลวงพ่อพูลท่านได้สืบสานคือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ให้หลักธรรมคำสั่งสอนกับเราไว้นั้นเอง 

กระแส "นะหน้าทอง" ยังไม่จบ หลวงพี่น้ำฝน ว่าอย่างไรบ้าง ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข - นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครปฐม

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ