ข่าว

ย้อนประวัติ "ผู้กำกับโจ้" ตำรวจทำเลทอง 17 ปี ศาลชี้ชะตา คดีถุงดำ เปลี่ยนชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

17 ปี บนเส้นทางชีวิตตำรวจสายสืบ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้" อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ในคดีถุงดำคลุมหัว ที่โลดแล่นจากนายร้อยตำรวจ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้กำกับ ก่อนเป็นดาวตก

โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ นายจิระพงศ์ หรือ มาวิน ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลจังหวัดนครสวรรค์ในช่วงการถูกจับในคดียาเสพติดและถูกควบคุมตัวไว้ในช่วงระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม 2564 โดยภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์

ต่อมา "ผู้กำกับโจ้" ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันทรมาน นายจิระพงศ์ หรือ "มาวิน" โดยใช้ถุงดำคลุมศรีษะจนเหยื่อขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลจังหวัดนครสวรรค์ โดยในคดีนี้มีผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมทั้งหมด 7 คน สุดท้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีคำสั่งไล่ออกจากราชการจากการกระทำความผิดวินัยร้ายแรง

ย้อนประวัติ "ผู้กำกับโจ้" ตำรวจทำเลทอง 17 ปี  ศาลชี้ชะตา คดีถุงดำ เปลี่ยนชีวิต ย้อนประวัติ "ผู้กำกับโจ้" ตำรวจทำเลทอง 17 ปี  ศาลชี้ชะตา คดีถุงดำ เปลี่ยนชีวิต

ต่อมาในวันที่ 19 ม.ค. 65 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้" ใน "คดีถุงคลุมหัว" นายจิระพงศ์ หรือ มาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิต เมื่อถึงเวลานัด ศาลสอบจำเลยทั้ง 7 คน เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสำนวนคดีเบื้องต้น โดยทั้งหมดรับว่า เป็นข้าราชการตำรวจ มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย 

โดย "ผู้กำกับโจ้" ยอมรับว่า ได้นำถุงพลาสติกหลายใบ มาคลุมศีรษะจริง แต่ปฏิเสธว่า ไม่ได้รัดแน่น หรือมีเจตนาทำให้เสียชีวิต นอกจากนี้ "ผู้กำกับโจ้" ยังแถลงต่อศาลว่า ขณะเกิดเหตุมีเหตุการณ์ช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภายในห้อง ได้พยายามกำลังช่วยชีวิตนายมาวิน แต่ในคลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่ได้ถูกลบ และตัดหายไป รวมทั้งมีตำรวจบางนายที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ปรากฏในคลิป เพราะถูกลบไป รวมทั้งให้การเท็จ และมีส่วนรู้เห็น ซึ่งตนได้ส่งคลิปเต็มผ่านทางทนายให้ศาลพิจารณาแล้ว

 

ขณะที่ศาลแจ้งว่า คลิปทั้งหมดศาลจะนำไปเป็นวัตถุพยานหลักฐาน หากจำเลยเห็นต่าง ก็ให้ว่ากันในของชั้นพิจารณา และหากเห็นว่าเมื่อสืบพยานทั้งหมดที่นัดแล้ว ยังได้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน ศาลอาจจะพิจารณาเพิ่มพยานในภายหลังได้

ทั้งนี้ สำหรับการการนัดตรวจพยานหลักฐานคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้รวมทั้งคำแถลงที่ได้ระบุว่า มีการตัดต่อคลิป และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การเท็จ ได้สร้างความสนใจให้กับประชาชนทั่วประเทศ ที่ได้ติดตามคดีนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนายตำรวจที่เป็นตัวละครแรก ที่เป็นบุคคลนำภาพจากกล้องวงจรปิดในเซฟเวอร์คอมพิวเตอร์ ถ่ายข้อมูลคลิปภาพ และนำภาพดังกล่าวมามอบให้กับตัวละครที่สอง ซึ่งเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจเอก ก่อนจะมีการนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนในเวลาต่อมา  จนกระทั่ง ศาลศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีในวันนี้ 8 มิถุนายน  ใน 4 ข้อหาหนัก โดยมีอัตราโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต สุดท้ายศาลมีคำสั่งให้อดีต ผกก.โจ้จำเลยที่ 1-5 เเละ7 กระทำผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษข้อหาฆ่าโดยโหดร้ายทารุณฯบทหนักสุดให้ประหารชีวิตลดโทษ 1 ใน3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่6 ผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมานอาญามาตรา 157 จำคุก 5 ปี 4  เดือน

 

สำหรับเส้นทางชีวิตราชการของอดีต "ผู้กำกับโจ้" เกิดเมื่อวันที่  29 มิถุนายน 2525 ปัจจุบันอายุ 40  ปี ที่ผ่านมาการทำงานของนายตำรวจหนุ่มรายนี้ ถือได้ว่าเป็นนายตำรวจอนาคตไกลคนหนึ่ง ซึ่งการศึกษานั้น จบนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 41 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 57 และเส้นทางชีวิตราชการตำรวจ ก่อนที่จะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีถุงดำคลุมหัว ถือว่าเป็นนายตำรวจดาวรุ่งในรุ่นเดียวกันเลยก็ว่าได้ 

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้" บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2547 โลดแล่นอยู่บนเส้นทางของการเป็นตำรวจสายสืบฝีมือดีนายหนึ่งเลยก็ว่าได้ และด้วยระยะเวลาเพียง 17  ปี ของการรับราชการ จึงได้ก้าวเข้าสู่ในตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองนครสวรรค์ ในเวลาต่อมา 

ในอดีต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้"  เคยสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดยทำงานสืบสวนด้านยาเสพติด และมีส่วนร่วมจับกุมคดีสำคัญๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้เส้นทางรับราชการ เติบโตแบบก้าวกระโดด เรียกได้ว่าทันทีที่ครบสเปก หรือเข้าหลักเกณฑ์ ในการครองตำแหน่ง ก็จะได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่ง สูงขึ้นทันที เพราะผลงานการันตี

จากรองสารวัตร 7 ปี ขึ้นเป็นสารวัตร 6 ปี ขยับขึ้นรองผู้กำกับการ ในตำแหน่ง รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 

ย้อนประวัติ "ผู้กำกับโจ้" ตำรวจทำเลทอง 17 ปี  ศาลชี้ชะตา คดีถุงดำ เปลี่ยนชีวิต

 

 

วาระแต่งตั้ง 2562 โยกข้ามหน่วย มาเป็นรองผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ผลงานที่เข้าตากรรมการ และประชาชนทั่วไปได้พบเห็นคือ ร่วมทีมคลี่คลายคดีนายช่าง สวท.พิษณุโลก ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ศพ เหตุเกิดภายในสถานี สวท.พิษณุโลก 

จากนั้นวาระแต่งตั้งในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้ขยับตำแหน่ง และก้าวเข้ามานั่งในเก้าอี้ "ผู้กำกับ" แม้ลำดับอาวุโสรั้งท้าย ในกลุ่มผู้มีสิทธิ์ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น อยู่อับดับรองสุดท้าย จากผู้มีสิทธิ์เลื่อนตำแหน่ง 326 นาย โดยอดีต "ผู้กำกับโจ้" อยู่ในอันดับที่ 325 แต่ก็ได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ด้วยคุณสมบัติจัดเต็ม มาแบบอาวุธครบมือ ถึงกับปาดหน้าเบียดรุ่นพี่ๆ ข้ามหัวมาหลายคน จนได้เป็นผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ นั่งทำเลทอง โรงพักเกรดเอของ ตำรวจภูธรภาค 6  

เพราะในวงการสีกากี บุคคลที่สามารถบุกป่าฝ่าดงได้ขนาดนี้ ต้องมีแบ็คอัพหนุนหลังที่ไม่ธรรมดา ฉะนั้น รองผู้กำกับ ที่เพิ่งย้ายมาข้ามหน่วยมาหมาดๆ แถมยังได้รับการแต่งตั้งเป็นพันตำรวจเอก ในฐานะ "ผู้กำกับการ" โรงพักเกรดเอ นอกจากผลงานจะต้องเข้าตากรรมการ  แบบทะลุเบ้าตาแล้ว ยังต้องมีกำลังภายในหนุนหลังที่มีพลังอีกด้วย 

เส้นทางโลดแล่นของอดีต "ผู้กำกับโจ้" ด้วยอายุราชการ 17 ปี จากรองสารวัตร ก้าวขึ้นนั่งในตำแหน่ง ผู้กำกับการ ต้องจบลง กระทั่งวันที่ 24 ส.ค.64 พล.ต.อ.สุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งให้ "ผู้กำกับโจ้" ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกับถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และถูกศาลออกหมายจับ ในคดีอาญาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือคดีถุงดำ  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ