"เนรเทศ" ครอบครัว 5 พรานป่า "ล่าเสือโคร่ง" พ้นป่าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

18 ม.ค. 2565 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์  ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย "ทส.เป็นหนึ่งเดี่ยว" ยกระดับการปฏิบัติการในการป้องกันและปราบปราม การลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า และล่าสัตว์ป่า ในจังหวัดกาญจนบุรี โดยสามารถจับกุม "พรานป่า" ผู้กระทำความผิดในการล่าสัตว์ป่า "ล่าเสือโคร่ง" ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายากได้ 5 ราย  "เนรเทศ" 

ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุมพรานป่า จำนวน 5 ราย ซึ่งได้ร่วมกันล่าเสือโคร่ง ด้วยเหตุนี้ทำให้ นายกมลาส อิสสะอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม , นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานฯทองผาภูมิ  พร้อมกำลังจนท.บก.ปทส. , จนท.อุทยานฯ  ได้เดินทางโดยใช้เรือเป็นยานพาหนะ ไปยังหมู่บ้านปิล็อกคี่ ม.4.ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จากนั้นได้ติดป้ายประกาศ บริเวณบ้านของพรานทั้ง 5 คน รวม 4 หลัง โดยสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนทั้งหมด และให้ทุกคนออกจากพื้นที่อุทยานฯเขาแหลม ภายใน 30 วัน เนื่องจากกระทำผิดมติ ครม. 30 มิ.ย.2541
 

โดยมติ ครม.  ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้ามีการกระทำการใดๆ เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า หรือขยายพื้นที่อยู่อาศัย ที่ทำกินเพิ่มเติม หรือเป็นการทำลาย หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาป่า หรือสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉีบดขาด และเพื่อป้องกันมิให้มีการยึดถือครอบครองพื้นที่ ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ สั่งให้ผู้กระทำความผิด ออกจากพื้นที่ ทำลาย รื้อถอน และหรือ ดำเนินการอื่นๆ ตามกฎหมายกำหนด 

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ , นายศุภชัย เจริญทรัพย์(เป็นคนยิงเสือตัวที่ 2 ในวันที่ 8 มกราคม 2564 เวลา 20.00 น. ด้วยปืนลูกกรด) , นายจอแห่ง ธนารักษ์(เป็นคนยิงเสือตัวที่ 1 ในวันที่ 8 มกราคม 2564 เวลา 12.00 น. ด้วยปืนแก๊ป) , นายกูกือ อินดี / และนายโซว ไม่มีนามสกุล ซึ่งทั้งหมดอยู่บ้านปิล๊อกคี่ หมู่ที่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ถูกดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง เสือโคร่ง ที่ใกล้สูญพันธุ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งข้อหาอื่นๆ อีก 10 ข้อหา รวมเป็น 11 ข้อหา 
 

อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน หรือพรานป่า  ได้ก่อเหตุ "ล่าเสือโคร่ง"  จึงเป็นการฝ่าฝืน หรือผิดเงื่อนไข ตาม มติ ครม. จึงต้องให้ออกจากในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และต้องทำลาย รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้  

ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน หรือไม่ทำตาม ต้องถูกดำเนินคดีตาม พรบ. อุทยานแห่งชาติ 2562 มาตรา19(1) ฐาน ยึดถือครอบครอง ที่ดินภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 แสน ถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  "เนรเทศ"