ยื้อชีวิต "พยาบาลสาว" เหยื่ออุบัติเหตุ "บรรทุกพ่วง" พบสัญญาณชีพเริ่มดีขึ้น

จากกรณี รถพยาบาลของโรงพยาบาลอุ้มผาง ประสบอุบัติเหตุชนกับรถ "บรรทุกพ่วง" บริเวณศาลเจ้าพ่อพระวอ บ้านห้วยผักหละ ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ขาเข้าแม่สอด ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก  ขณะกำลังนำผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลอุ้มผาง เพื่อไปส่งที่โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก โดยสภาพรถพยาบาลพังยับเยิน ไฟฉุกเฉินยังเปิดทิ้งไว้ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย และผู้ป่วยรีเฟอร์ไปโรงพยาบาลแม่สอด 1 ราย "พยาบาลสาว"

โดยอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้นายกิตติพงษ์ อาจยาทา อายุ 45 ปี พนักงานขับรถพยาบาล และนางสาวปุณยวีร์ ศรีดวงแปง (อุ้ม) อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลอุ้มผาง ถูกอัดติดคาซากรถพยาบาล บริเวณด้านหน้ารถอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยมังกรเขตแม่สอด ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง งัดซากรถตู้พยาบาล จึงสามารถนำคนขับ และพยาบาลสาว ส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอด เป็นการด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บด้านในรถพยาบาลได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน แต่อาการไม่สาหัส 
 

ทั้งนี้ จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้ นางสาวปุณยวี หรือ อุ้ม (พยาบาลวิชาชีพ) ซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้ารถ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสมองได้รับความกระทบกระเทือน ประกอบกับต้องใช้เลือดในปริมาณมาก ในการผ่าตัดสมอง ทำให้ชาวบ้านใน อ.แม่สอด และเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 35 ทหาร ฉก.ร.4  รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด นำโดย พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปบริจาคเลือดที่โรงพยาบาลแม่สอด เพื่อมอบโลหิตให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ และต้องการเลือด จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ 

 

จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน พบว่า ขณะเกิดอุบัติเหตุรถ "บรรทุกพ่วง" บรรทุกอ้อย ได้มีการเปลี่ยนเลนกระทันหัน ประกอบกับรถตู้พยาบาล ซึ่งวิ่งมาตามเลน และไม่สามารถเบรกได้ทัน จึงทำให้พุ่งชนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ พร้อมกับรอผลจากการตรวจจากแพทย์ ที่ทำการรักษาอาการของผู้บาดเจ็บ โดยจะนำในส่วนนี้เข้ามาประกอบ และเตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับโชเฟอร์คนขับรถบรรพ่วงรายนี้ต่อไป 

พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอาการของ นางสาวปุณยวี หรือ อุ้ม (พยาบาลวิชาชีพ) ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ขณะนี้ทราบว่า มีอาการทรงตัว และเริ่มดีขึ้น เนื่องจากการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนทั้งชาวบ้านใน อ.แม่สอด ทหาร รวมทั้งตำรวจ สภ.แม่สอด ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันบริจาคโลหิต ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ จนสามารถทำให้ผู้ป่วยพ้นวิกฤต

"แพทย์ที่ให้การช่วยเหลือ "พยาบาลสาว" ที่มีอาการสาหัส จากการหารือ กับทีมแพทย์ทราบว่า อาการของน้องพยาบาลนั้น ค่อนข้างสาหัสมาก ดังนั้น จึงต้องขอรับการสนับสนุนในการบริจาคโลหิตเป็นการด่วน เพราะในการผ่าตัดต้องใช้เลือดเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีเลือดสำรองน้อย ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงกับผู้บาดเจ็บ เนื่องจากในระหว่างการผ่าตัด หากเกิดเอฟเฟคขึ้นมา ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เลือดในปริมาณมาก" ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก กล่าว