ข่าว

แก้ปัญหา "หวยแพง" กองสลากตั้งเป้าแก้ 30-40% เล็งขายออนไลน์ หวังตรึงราคาสลาก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ธนวรรธน์ ยัน กองสลาก ตั้งเป้า แก้ปัญหา "หวยแพง" ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 - 40 เล็งขายออนไลน์ 80 บาท หวังกดดันผู้ค้า ให้ปรับลดราคา เพื่อขายสู้ออนไลน์

ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาแพง ถ้าถามว่าสามารถแก้ได้ หรือไม่ คงต้องตอบว่าแก้ไม่ได้ แต่ถ้าถามถึงความคาดหวังในการแก้ปัญหาดังกล่าว เรามีความหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหา "หวยแพง" ได้ประมาณ 30 - 40 % ซึ่งมาจากการคัดกรองกระบวนการคนขายจริง สมมุติว่ามีคนขาย 2 แสนคน ขายเองจริงๆโดยไม่เปลี่ยนมือ ไม่ขายช่วง ราคาสลากกินแบ่ง จะต้องใกล้เคียง 80 บาทอยู่แล้ว อาจจะเกินไปบ้างแต่ก็ไม่มาก เนื่องจากปกติคนขาย อาจจะเน้นการทำกำไรในหลักสิบบาทถึง 15 บาท ดังนั้นคนขายเอง จึงตั้งราคาเกิน 80 บาทเป็น 85 บาทถึง 90 บาท เพราะกลัวจะขายไม่หมด จึงต้องทำกำไรในรูปแบบดังกล่าว

ซึ่งเห็นได้ว่าด้วยระบบแล้วจึงเป็นการยากที่คนขายสลากเป็นหลักเป็นแหล่ง จะทำกำไรเพียงแค่ 9,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นการขายสลาก ฯ เหมาะสำหรับการเป็นอาชีพเสริมหรือหารายได้เสริม หรือเหมาะสำหรับคนที่ใช้เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองเช่น คนพิการ ดังนั้นจึงหวังว่าคนที่อยู่ในระบบการคัดกรองในครั้งนี้ น่าจะเป็นผู้ค้าเองได้ประมาณ 30 - 40 %
แก้ปัญหา "หวยแพง" กองสลากตั้งเป้าแก้ 30-40% เล็งขายออนไลน์ หวังตรึงราคาสลาก

นอกจากนี้กองสลาก ฯ ยังมีโครงการสลาก ฯ 80 บาทที่ขายอยู่ประมาณ 2,500 ใบ 1,000 จุดทั่วประเทศ ซึ่งก็จะมีประมาณ 2,500,000 ใบโดยประมาณ ที่ขายในราคา 80 บาท จาก 100 ล้านใบ คิดเป็น 2.5% ดังนั้นหากนำ 2 โครงการ ดังกล่าวมารวมกันพร้อมทั้ง ถ้าเราสามารถทำดอทคอมได้เอง ก็คาดหวังว่าจะสามารถดึงราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลลงได้ 

กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้การแก่ปัญหาก็ยังคงไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแน่นอน จึงจำเป็นที่จะต้องออกผลิตภัณฑ์เสริม คือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นระบบออนไลน์ เข้ามาขายเนื่องจากออนไลน์ ไม่สนใจว่าเลขไหนเป็นเลขดัง ซึ่งหากขายในราคา 80 บาท ด้วยระบบระบบคอมพิวเตอร์ประชาชนจะมีทางเลือกในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหากประชาชนหันไปซื้อในออนไลน์มากขึ้น ก็จะทำให้พ่อค้าที่ขายในราคาสูง ดึงราคาลงใกล้เคียง 80 บาทอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงหวังถึงความสำเร็จเมื่อเราสามารถทำการขายผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือออนไลน์ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเราจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยหวังว่าภายในปีนี้จะสามารถยื่นเรื่องต่อกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอครม.ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับโครงการผู้ค้าสลากฯ หากประชาชนผู้ค้าร่วมมือกัน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้อง เข้าไปในระบบออนไลน์ แต่หากว่าไม่สำเร็จก็จำเป็นที่จะต้องเข้าสู่ระบบออนไลน์ ทั้งนี้กองสลากกินแบ่งรัฐบาล จะมีการตรวจสอบผู้ค้า อย่างต่อเนื่องว่ามีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 80 บาทจริงหรือไม่ ดังนั้นจึง สามารถคาดหวังได้ว่า จะสามารถดึงราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ลงมาที่ 80 บาทได้ สำเร็จประมาณ 30 - 40 %
แก้ปัญหา "หวยแพง" กองสลากตั้งเป้าแก้ 30-40% เล็งขายออนไลน์ หวังตรึงราคาสลาก

สำหรับการเปิดลงทะเบียนผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ขณะนี้ยอดผู้ลงทะเบียนเกินเป้าไปมาก ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนประมาณ 4-5 แสนคน แต่จากที่เช็กล่าสุดพบว่ามีผู้ลงทะเบียนแล้ว กว่า 5แสนคน และคาดว่าน่าจะปิดการลงทะเบียนอยู่ที่ 7-8 แสนคน ซึ่งกองสลากสามารถ ให้ผู้ค้าได้เพียงแค่ 2 แสน รายเท่านั้นสำหรับรายย่อย
เนื่องจากกองสลากไม่สามารถพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลได้เกิน 100 ล้านใบ เพราะอาจจะถูกมองว่าเป็นการมอมเมาประชาชน และในจำนวน 100 ล้านใบนี้เป็นจำนวนที่พอดีแผงอยู่แล้ว หากพิมพ์ออกมามากเกินไปอาจจะก่อให้เกิดปัญหาสลากฯ ล้นและทำให้ผู้ค้าเลือดร้อน สำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนในครั้งนี้เป็นเครื่องชี้วัดที่สำคัญว่า มีผู้ที่ให้ความสนใจในการลงทะเบียนค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมาก แต่สลากมีจำนวนจำกัด จึงเห็นได้ว่าอาชีพการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ใช่อาชีพเสรี แต่เป็นอาชีพที่จะคัดกรองให้มีผู้ค้าที่ขายสลากในราคา 80 บาทเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้ว่าความต้องการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลของประชาชนมี 100 ล้านใบแต่ความต้องการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลของผู้ค้ามีมากเกินถึง 300 ล้านใบ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ราคา "หวยแพง" กว่ากำหนด ทั้งนี้กองสลากไม่ได้นิ่งนอนใจจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเบ็ดเสร็จโดยเฉพาะการขายในระบบคอมพิวเตอร์ ในอนาคตน่าจะแก้ไขปัญหาได้เบ็ดเสร็จมากขึ้น


สำหรับกรณีที่มีผู้ลงทะเบียนเกินจำนวนความต้องการ ทางกองสลาก ฯ จะมีการทำการจับสลาก เพื่อสุ่มออก โดยหวังว่าผู้ที่ค้าเดิมจำนวน 1.5 แสน รายที่เคยลงทะเบียนเอาไว้กับกองสลากก่อนปี2558 ถ้าคัดกรองแล้วเป็นผู้ขายจริง น่าจะอยู่ต่อในระบบอีกประมาณราว 1แสนคน ซึ่งกลุ่มดังกล่าว จะได้อยู่ในระบบอยู่แล้วในการสุ่มจำนวน 2 แสนราย สำหรับผู้ที่เป็นผู้ค้ารายใหม่จริงๆ กองสลากอยากจะแนะนำว่าอย่าเข้ามาขายเลย ควรจะปล่อยให้ผู้ที่ทำอาชีพนี้ในการหาเลี้ยงชีพได้สลากไปขายดีกว่า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ