ข่าว

ประชาธิปัตย์ยกทัพสู้โค้งสุดท้าย ดัน “อิสรพงษ์” เบอร์ 1 คว้าชัยชนะส.ส.ชุมพร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จุรินทร์" นำทัพใหญ่ปราศรัยโค้งสุดท้ายชุมพร ขอคะแนนเสียงให้ “อิสรพงษ์ มากอำไพ” เบอร์ 1 ประชาธิปัตย์ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้นักสู้คนชุมพร และคืนอนาคตให้การเมืองคุณธรรมมีอนาคต พร้อมย้ำต้องเลือกส.ส.ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีอุดมการณ์พรรค และไม่ใช่เลือกเพราะเงิน

วันนี้ (14 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำทัพขุนพล พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายเพื่อหาเสียงใน การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 1 จังหวัดชุมพร ให้กับ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ หรือ “ตาร์ท” ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ อ.เมือง จ.ชุมพร  ที่เวทีสนามหน้า อบจ.ชุมพร โดยมีพี่น้องประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง 

 

ประชาธิปัตย์ยกทัพสู้โค้งสุดท้าย ดัน “อิสรพงษ์” เบอร์ 1 คว้าชัยชนะส.ส.ชุมพร

 

นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยในตอนหนึ่งว่า มาถึงวันนี้เข้าโค้งสุดท้าย ถ้าเป็นวิ่งพันเมตร ไป 980 เมตร เหลือเพียง 20 เมตรจะเข้าเส้นชัย มีนักวิ่งในจำนวนนั้นมี เบอร์ 1 “อิสรพงษ์ มากอำไพ” ประชาธิปัตย์เข้าแข่งด้วย ที่ผ่านมามีเบอร์ จุด จุด จุด มาหาปราศรัยหาเสียงบอกพี่น้องคนภาคใต้บ้านเราว่าวิธีเลือกผู้แทนต้องเลือกที่มีชาติตระกูลดีและมีตังค์ การเลือกผู้แทนถ้าเราติดใจเลือกคนมีตังค์ บ้านเมืองก็ไม่ไปทางไหน ต่อไปสภาผู้แทนจะกลายเป็นสภาของเศรษฐี คนจนเหมือนพวกเราจะอยู่ที่ไหน แล้วใครเป็นตัวแทนคนจนอย่างพวกเรา ใครจะมาเป็นประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ถ้ามีแต่คนรวยก็จะกลายเป็นสภามหาเศรษฐี แล้วจะมาปกป้องผลประโยชน์พี่น้องประชาชนอย่างพวกเราทำไม

 

เพราะฉะนั้น ความคิดความอ่านที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้พี่น้องเลือกแต่คนรวยมันผิดหลัก และเข้าข่ายเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบธนาธิปไตย คือเห็นเงินเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไปสนับสนุนไม่ได้ การเลือกตั้งผู้แทนราษฎรต้องเลือกที่คุณสมบัติความเหมาะสมและอุดมการณ์ของผู้สมัครและพรรคการเมือง ไม่ใช่เลือกเพราะเงิน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงโครงการประกันรายได้ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ปรากฏให้เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรม พร้อมกับได้ปราศรัยแสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้อำนาจรัฐ จากที่เป็นข่าวว่ามีคนมีสีมาป้วนเปี้ยนในการเลือกตั้งเขต 1 จังหวัดชุมพร จึงอยากให้พี่น้องได้ตระหนักว่าการใช้อำนาจรัฐนั้นใช้ได้ แต่ต้องใช้ในทางที่ชอบเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน อย่างเรื่องการสั่งการเพื่อแก้ปัญหาเกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์ม  สวนผลไม้ แก้ปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจในทางที่ชอบ แต่ถ้าเป็นการใช้อำนาจรัฐในทางไม่ชอบ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรสนับสนุนและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายเลือกตั้ง 

 

ประชาธิปัตย์ยกทัพสู้โค้งสุดท้าย ดัน “อิสรพงษ์” เบอร์ 1 คว้าชัยชนะส.ส.ชุมพร

 

“คนเรานับหนึ่งคิดจะเป็นผู้แทน ถ้านับหนึ่งจากการทำผิดกฎหมาย แล้วต่อไปเราจะไปหวังพึ่งคนแบบนี้ได้อย่างไร ตรงนี้จึงเป็นที่มาที่พรรคการเมือง บางพรรคออกมาประกาศว่าเลือกตั้งเที่ยวนี้ ชุมพรยังไงก็แพ้ไม่ได้ แต่คำว่าแพ้ไม่ได้ ยิ่งเป็นคำสะท้อนว่าจะมีความพยายามทำทุกวิถีทาง ถูกหรือผิดก็ตาม ขอให้ได้มาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนชุมพรบ้านเรา คนปักษ์ใต้บ้านเราจะยอมไม่ได้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำ
 

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในการเลือกตั้งซ่อมชุมพรเที่ยวนี้ ประชาธิปัตย์ต้องสู้กับ 3 เรื่อง 1. ต้องสู้กับอำนาจเงิน 2. ต้องสู้กับอำนาจรัฐ และ 3. เราต้องสู้กับความไม่ชอบธรรมในทางการเมือง วันนี้นักข่าวมาถามว่ารัฐบาลกำลังจะพังเพราะพรรคร่วมรัฐบาลมาแข่งกันเองจริงไหม ตนเองได้ตอบว่าตอบไม่ได้ว่าพังหรือไม่พัง แต่บอกว่าเรื่องนี้ได้เคยเตือนไปแล้วว่าถ้าวันนี้ประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลเสียที่นั่งต้องมีการเลือกตั้งซ่อม เราจะไม่ส่งคนของประชาธิปัตย์ไปแข่ง เพราะไม่ได้ช่วยให้รัฐบาลได้อะไรดีขึ้นมา ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาล พรรค 1 หรือพรรค 2 ชนะการเลือกตั้ง เสียงของ ส.ส. รัฐบาลก็เท่าเดิม ได้ไม่คุ้มเสีย มีแต่สร้างความบาดหมางใจต่อกัน โดยไม่จำเป็นในทางการเมือง แต่มาถึงนาทีนี้ สิ่งที่ประชาธิปัตย์คิด ประชาธิปัตย์ยึดเป็นหลักเสมอมาตลอดระยะเวลายาวนาน มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นแล้ว แต่ว่าทั้งหมดนี้ ตนเองไม่ตำหนิพรรคการเมืองที่ส่งมาแข่งเพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ในทางการเมืองและบางพรรคการเมืองอาจจะเพิ่งเกิด อาจจะยังเข้าใจว่าประชาธิปไตย เข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องของมือใครยาวสาวได้สาวเอา 

 

ประชาธิปัตย์ยกทัพสู้โค้งสุดท้าย ดัน “อิสรพงษ์” เบอร์ 1 คว้าชัยชนะส.ส.ชุมพร

 

“พรรคการเมืองบางพรรคคิดว่าคุณธรรมทางการเมือง ในการทำงานร่วมกันในรัฐบาลผสมอาจจะไม่ใช่เรื่องจำเป็น ที่พูดทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เพราะกลัวแพ้ ที่เพื่อนส่งมาแข่งไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม เพราะว่าการเลือกตั้งไม่ชนะก็แพ้ เสมอไม่มี แต่ว่าผมบอกพี่น้องเลย ผมสงสารลูกหมี สงสารลูกหมีที่ต้องนั่งน้ำตาตกใน ลูกหมีเคยทุ่มเทชีวิต สู้กับความไม่ถูกต้องจนถูกตัดอนาคตทางการเมือง ทำให้บางพรรคสามารถชูคอขึ้นมามีอำนาจล้นฟ้า เป็นรัฐบาลอยู่ในวันนี้ได้ แต่ไม่กี่วันเพื่อนรู้หมดแล้ว แค่เก้าอี้ตัวเดียวตัวเดิมของลูกหมี ยังตามมาทวงเลย กับความดีของลูกหมีเขายังลืม แล้วพี่น้องตาดำ ๆ อย่างพวกเราเลือกตั้งลงคะแนนให้แล้ว เขาจะลืมไหมในวันข้างหน้า” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

 

นายจุรินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้งเที่ยวนี้ นอกจากคนชุมพรแล้ว ประชาธิปัตย์ยังต้องสู้กับอำนาจเงิน อำนาจรัฐ และต้องต่อสู้กับคุณธรรมจริยธรรมในทางการเมืองด้วย จึงขอให้พี่น้องลงคะแนนเลือก “น้องตาร์ท” อิสรพงศ์ มากอำไพ เบอร์ 1 พรรคประชาธิปัตย์ เพราะอยากเห็นคนชุมพรคืนความเป็นธรรมให้กับ “ชุมพล จุลใส” ลูกหมีของเรา อยากเห็นคนชุมพรคืนศักดิ์ศรีให้กับคนชุมพรด้วยกันเอง และไม่ใช่เพียงคืนความเป็นธรรมให้กับนักสู้คนชุมพรและพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ยังเป็นการคืนอนาคตให้กับการเมืองคุณธรรมมีอนาคตด้วย

 

ประชาธิปัตย์ยกทัพสู้โค้งสุดท้าย ดัน “อิสรพงษ์” เบอร์ 1 คว้าชัยชนะส.ส.ชุมพร


สำหรับการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย พรรคประชาธิปัตย์ได้นำขุนพลทัพใหญ่ขึ้นเวทีอย่างคับคั่ง ประกอบด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รัตน์ ส.ส.ชุมพร นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง น.ส.แนน บุญย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคอีกหลายคนเข้าร่วมให้กำลังใจผู้สมัคร เบอร์ 1 นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เพื่อร่วมกันขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนจังหวัดชุมพร ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 16 มกราคม เข้าคูหา กาเบอร์ 1 ประชาธิปัตย์

 

ด้าน นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ และคณะจะใช้เวลาช่วยหาเสียงให้กับนายอิสรพงษ์ อย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาทั้งสองวัน คือวันที่ 14-15 มกราคม 2565 เพื่อขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนในการสนับสนุนผู้สมัครของพรรค คือนายอิสรพงษ์ คนหนุ่มรุ่นใหม่ และในวันรุ่งขึ้นจะเดินรณรงค์หาเสียงทั้งวันในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

 

"ผู้สมัครมีจุดแข็งคือเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ มีศักยภาพ มีความรู้ดี มีความพร้อม และมีความตั้งใจในการเข้ามาทำงานการเมือง มีประสบการณ์ในการทำงานการเมืองระดับท้องถิ่นจึงมีความรู้ความเข้าใจปัญหาในพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะคลุกคลีอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด หากได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน จึงมั่นใจได้ว่าจะเริ่มต้นทำงานได้ในทันที" นางดรุณวรรณ กล่าว

logoline