คดีพรานยิง "เสือโคร่ง" จนท. เร่งขยายผล ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่
อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ซึ่งเป็นปืน อปพร.ที่พบในที่เกิดเหตุ ให้มีการตรวจสอบว่า ปืน กระบอกดังกล่าว ใครครอบครอง ตั้งแต่ต้นไปจนถึงคนสุดท้าย
ความคืบคดียิงเสือโคร่งถลกหนัง บริเวณป่าห้วยปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ติดต่ออุทยานฯเขาแหลม และป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก วันนี้ได้นำผู้ต้องหา 2 ใน 5 คน ที่เป็นผู้ลงมือยิงเสือโคร่ง เข้าไปชี้จุดเกิดเหตุ และ เจ้าหน้าที่เข้าหาหลักฐานเพิ่มเติม
วันนี้ (14 ม.ค.65) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับหน่วยงานที่ข้อง แถลงข่าวที่ สภ.ทองผาภูมิ ว่า เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ลงวันที่ 13 ม.ค.2565 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน รวม 9 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง
โดยไม่ได้รับอนุญาต
2.ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
3.ร่วมกันเก็บหาของป่าอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาต
4.ร่วมกันล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ
5.ร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆเพื่อหาผลประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติ
6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ 7.ยิงปืนทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิงในเขตอุทยานแห่งชาติ
8.ร่วมกันทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ
9.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับผู้ต้องหารวม 5 คน ประกอบด้วย
1.นายรัชชานนท์ อายุ 30 ปี
2.นายศุภชัย อายุ 34 ปี
3.นายจอแห่ง อายุ 38 ปี
4.นายกูกือ อายุ 37 ปี
5.นายโซเอ อายุ 66 ปี
พร้อมของกลาง 1.ซากเสือโคร่ง จำนวน 2 ซาก น้ำหนัก 52.5 กก.
2.อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก
3.อาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดกล้องเล็ง จำนวน 1กระบอก
4.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 2 กระบอก
5.กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด
6.ปลอกกระสุนปืนลูกซองจำนวน 5 ปลอก
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1- 4 ให้การรับสารภาพว่า พวกตนได้กระทำผิดจริง โดยอ้างว่า สาเหตุในการยิงเสือโคร่งครั้งนี้ เนื่องจากพวกตนมีอาชีพเลี้ยงวัว ควาย ในหมู่บ้านปิล็อกคี่ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ แต่เนื่องจากในช่วงนี้มีน้ำท่วมสูง จึงนำวัวควายไปเลี้ยงในป่าเขา และที่ผ่านมาวัว ควายของพวกตนถูกเสือกินไปแล้ว กว่า 20 ตัว
จึงนำอาวุธปืนที่พวกตนมีอยู่ นำติดตัวไปเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยง แล้วยิงเสือโคร่งไป 2 ตัว และถูกเจ้าหน้าที่อุทยานทองผาภูมิตรวจพบ ขณะนั้นพวกตนตกใจจึงวิ่งหลบหนีไป ส่วนนายโซเอ ให้การว่าได้เข้าไปในเขตอุทยานฯจริง แต่ไม่ได้ร่วมยิงเสือกับผู้อื่นแต่อย่างใด
ในเรื่องอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ซึ่งเป็นปืน อปพร.ที่พบในที่เกิดเหตุ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้นายอำเภอทองผาภูมิ ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วว่า ใครนำไป และไปอยู่กับผู้ต้องหา ที่ยิงเสือโคร่งได้อย่างไร และให้ดำเนินการตามกฏระเบียบกับผู้ที่นำไป โดยไม่มีการละเว้น
ต่อมามีรายงานว่า จังหวัดกาญจนบุรี สั่งตั้งกรรมการสอบ กรณีพบเสือโคร่ง 2 ตัว ถูกล่าและชำแหละ ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และพบว่ามีปืนลูกซองยาว 1 กระบอก หมายเลขทะเบียน L 1526415 ซึ่งเป็นปืนหลวงของฝ่ายปกครอง อยู่ในที่เกิดเหตุ ทางจังหวัดฯ ดำเนินการ 3 เรื่อง คือ ตรวจสอบปืน และทะเบียนปืนที่ปรากฏ เป็นของฝ่ายปกครองจริง และจะใช้ให้หมู่บ้าน อพป. โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกลุ่มของ ชรบ.ประจำหมู่บ้าน ให้มีการตรวจสอบบัญชี และการเบิกจ่าย ปืน ว่าเป็นไปตามระเบียบราชการหรือไม่ ให้มีการตรวจสอบว่า ปืน กระบอกดังกล่าว เบิกแล้วใครครอบครอง ตั้งแต่ต้นไปจนถึงคนสุดท้ายในที่เกิดเหตุ ว่า ใคร ใช้ปืนกระบอกนี้บ้าง รวมถึงเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเขม่าดินปืน ได้ว่า ลายนิ้วมือผู้ใดจับปืนบ้าง
สำหรับอาวุธปืนลูกซอง ที่เป็นปืนหลวง จะถูกแจกไปที่อำเภอในพื้นที่ เพื่อใช้รักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน ซึ่งหากเป็นหมู่บ้านที่ติดชายแดน และมีสถานการณ์รุนแรง เหมือนสมัยก่อน จะมีการมอบไว้ใช้ในหมู่บ้าน 15 กระบอก แต่ขณะนี้สถานการณ์ไม่มีความรุนแรง จึงลดอัตราการให้เบิกปืน โดยที่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีการเบิกปืนลูกซอง จากทางอำเภอทองผาภูมิ ออกไปใช้รักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน 4 กระบอก ซึ่งตามขั้นตอน ผู้นำหมู่บ้าน จะต้องเบิกปืนออกไปเก็บรักษาขณะใช้งาน แต่ครั้งนี้จะต้องมีการสอบสวน ถึงขั้นตอน และผู้ครอบครองปืนทั้งหมด
ภาพ/ข่าว วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาญจนบุรี