สาวกำมะลออ้างเป็น "นักสืบ" หลอกเหยื่อช่วยตามคดีก่อนลวงโอนเงินสูญกว่า 3 แสน

14 ม.ค. 2565 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)   พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชากาผบช.ก.สั่งการพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ต.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์ สว.กก.1 บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์  ร่วมจับกุม น.ส.สุพิชชา หรือ สาริตา   (สงวนนามสกุล)  อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครสวรรค์ ที่ จ.11/2565 ลงวันที่ 13 ม.ค.65  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”  โดยจับกุมได้ริมถนนใน ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ น.ส.สุพิชชา ผู้ต้องหา ได้แอบอ้างกับผู้เสียหายว่าตนเองเป็นนักสืบเอกชน สามารถติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับมาได้แล้วหลายคดี โดยมีทีมงานซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน มีประสบการณ์และมีความชำนาญพิเศษด้านการติดตามค้นหาตัวบุคคลเป็นอย่างดี ผู้เสียหายหลงเชื่อได้จ้างให้ น.ส.สุพิชชา ตามสืบหาผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าญาติตัวเอง  

จากนั้นระหว่างติดตามตัวคนร้าย ผู้ต้องหาได้ใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายว่าใกล้ได้ตัวคนร้ายแล้ว บางครั้งหลอกว่าคนร้ายหลบหนีออกประเทศเพื่อนบ้าน จนครั้งสุดท้ายได้หลอกผู้เสียหายว่าคนร้ายได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศ และถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมตัวได้ที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าดำเนินการให้รวมทั้งสิ้น 28 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 354,000 บาท

ต่อมาผู้เสียหายรู้สึกเอะใจก็ได้ไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องหา ปรากฏว่าไม่พบตัว อีกทั้งไม่มีการเปิดเป็นสํานักงานนักสืบตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี กระทั่งศาลอนุมัติออกหมายจับไว้ และตำรวจกองปราบปราม สืบสวนติดตามตามจับกุมได้ดังกล่าว

สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่ง สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป