วานนี้ (13 ม.ค.2565) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ จับกุม นายพงศธร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง หลอกสั่งอาหาร โดยออกอุบายสั่งข้าวกล่อง 300 กล่องที่ร้านอาหารย่านกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และให้ทางร้านบวกราคาเพิ่มจากกล่องละ 65 เป็น 85 บาท โดยอ้างว่าจะสั่งไปเลี้ยงพนักงานของบริษัท แต่จะมาเอาในวันถัดไป
ผู้ต้องหาจะให้ทางร้านออกใบเสร็จยอดเต็มรวมราคาส่วนต่างเพื่อจะไปเบิกเงินมาให้ก่อน แต่ขอรับเงินส่วนต่างจากทางร้านก่อน และหลอกให้พนักงานของทางร้านอาหารนั่งซ้อนท้ายและนำใบเสร็จค่าอาหารมาด้วย เพื่อจะพาไปเบิกเงินให้ ก่อนที่จะพาพนักงานมาทิ้งข้างโดยออกอุบายว่าให้รอตรงนี้จะเข้าไปเบิกเงินให้ เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถหนีไปปล่อยในพนักงานของร้านอาหารดังกล่าวยืนรออยู่นานนับชั่วโมงกว่าจะรู้ว่าถูกหลอก ทำให้ทางร้านอาหารสูญเงินไปกว่า 5 พันบาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่หลงกลเดินทางมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้อีกหลายพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ เป็นร้านขายเครื่องดื่ม ซึ่งตั้งอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านถนนศรีนครินทร์ ส่วนที่ สภ.สำโรงเหนือ เป็นร้านชานมไข่มุก ซึ่งตั้งอยู่บนห้างชื่อดังย่านสำโรงเหนือ
ขณะที่ พนักงานร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในย่านบางแก้ว หนึ่งในผู้เสียหาย ได้เล่าว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรายนี้จะทำเหมือนกันทุกครั้งคือเข้ามาติดต่อขอสั่งพิซซ่า จำนวน 300 กล่อง โดยอ้างว่าจะไปเลี้ยงคนในบ่อน และออกอุบายให้เพิ่มเงินส่วนต่างบวกลงไปในใบเสร็จ ด้วย และขอให้ออกใบเสร็จให้ก่อนเพื่อที่จะไปเบิกเงินให้ และจะมารับสินค้าในวันถัดไป แต่ขอเบิกเงินส่วนต่างจากทางร้านก่อน และจะเอาใบเสร็จไปเบิกเงินมาให้ โดยให้พนักงานของทางร้านนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปรอรับเงิน แต่พอคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์พาพนักงานของร้านมาถึงหน้าห้างแมคโคร ก็ออกอุบายให้พนักงานคนดังกล่าวยืนรออยู่หน้าห้าง โดยอ้างว่าจะเข้าไปเบิกเงินมาให้ ก่อนที่จะขี่รถหลบหนีไป ปล่อยให้พนักงานของร้าน ยืนรออยู่นานนับชั่วโมง กว่าจะรู้ว่าถูกหลอก จึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้
จากการสอบสวนนายพงศธร ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การว่า ตนเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ในคดีฉ้อโกงซึ่งก่อเหตุลักษณะเดียวกัน แต่หลังจากที่พ้นโทษออกมาไม่สามารถไปสมัครงานที่ไหนได้เนื่องจากไม่มีเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน จึงหวนกลับมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก โดยครั้งแรกไปก่อเหตุที่ร้านนมหมีปั่นในเขต สภ.เมืองสมุทรปราการ จากนั้นผ่านมาไม่กี่วันก็ไปก่อเหตุที่ร้านชานมไข่มุก ในห้างย่านสำโรงเหนือ และตระะเวนก่อเหตุอีกหลายพื้นที่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจะได้เงินจากผู้เสียหายครั้งละ5 - 8 พันบาท
หลังจากได้เงินมาก็จะเอาไปกิน เที่ยวและเล่นการพนันออนไลน์ โดยที่ตนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หลังก่อเหตุก็จะไปเช่าห้องพักและเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ กระทั่ง ล่าสุดไปเช่าห้องพักในย่านบางปะกงและเตรียมลงมือก่อเหตุอีก แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฉ้อโกงผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง