ข่าว

รวบหนุ่มใหญ่ หนี "หมายจับ" ศาล ฐาน "ฉ้อโกงทรัพย์" ตุ๋นแคชเชียร์เช็ค 200ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบหนุ่มใหญ่ 18มงกุฎ ตาม "หมายจับ" ศาลจังหวัดปทุมธานี โทษฐาน "ฉ้อโกงทรัพย์" ตุ๋นแคชเชียร์เช็ค มูลค่า 200 ล้านบาท

พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส. , พ.ต.อ.อริยพล สินสอน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท. เอก มหาสวัสดิ์ รอง ผกก.1 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ต.ดนัย ดีดวงพันธ์ , สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.  "หมายจับ" "ฉ้อโกงทรัพย์"

ร่วมกันจับกุม  นายอภิโชค หรือ นายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.134/2564 ลง 12 ต.ค. 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ฉ้อโกงทรัพย์" โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ริมถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร



รวบหนุ่มใหญ่ หนี "หมายจับ" ศาล ฐาน "ฉ้อโกงทรัพย์" ตุ๋นแคชเชียร์เช็ค 200ล้าน



ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่จังหวัดปทุมธานี ได้ตกลงที่จะดำเนินงานให้กับหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายจะต้องยื่นหนังสือค้ำประกันสัญญาให้กับทางหน่วยงานของรัฐ ก่อนดำเนินงาน ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายได้รู้จักนายอภิสิทธิ์ หรือนายอภิโชคฯ ซึ่งอ้างตัวว่ามีพรรคพวกเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร มีวงเงินที่จะสามารถจะออกหนังสือค้ำประกันให้กับผู้เสียหายได้ โดยผู้เสียหายจะต้องจ่ายค่าดำเนินการจัดทำเอกสารจำนวน 200,000 บาท ให้กับผู้ต้องหา ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินให้กับนายอภิสิทธิ์ฯ เพื่อไปดำเนินการดังกล่าว 

 

ต่อมานายอภิสิทธิ์ฯ ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่า หนังสือค้ำประกันดำเนินการเสร็จแล้ว และจะต้องโอนค่าเช่าหนังสือค้ำประกันอีก จำนวน 500,000 บาท โดยให้ไปรับหนังสือที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ผู้เสียหายจึงเดินทางไปตามที่ได้มีการนัดหมาย และพบกับพวกของผู้ต้องหา โดยมีการให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าดำเนินการไปให้นายอภิสิทธิ์ฯ พร้อมขอค่าดำเนินการส่วนตัวอีก 3% จากวงเงินในหนังสือค้ำประกัน คิดเป็นจำนวนเงิน 44,593.32 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปยังบัญชีของนายอภิสิทธิ์ฯ ซึ่งต่อมาเมื่อนายอภิสิทธิ์ฯ ได้เดินทางมาถึงจุดนัดหมาย ก็ไม่ได้นำหนังสือค้ำประกันมาให้ทางผู้เสียหาย
 

หลังจากนั้นอีก 2 วัน นายอภิสิทธิ์ฯ ได้นำแคสเชียร์เช็ค มาให้ผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อผู้เสียหายนำไปตรวจสอบ พบว่าไม่ใช่หนังสือค้ำประกันตามที่ได้ตกลงกันไว้ และภายในเช็คได้สั่งจ่ายในชื่อคน ไม่ใช่ชื่อของหน่วยงานของรัฐ โดยนายอภิสิทธิ์ฯ อ้างว่าจะนำไปแก้ไข หากแก้ไขไม่ได้จะนำเงินมาคืน แต่หลังจากนั้นผู้เสียหาย ก็ไม่สามารถติดต่อนายอภิสิทธิ์ฯ ได้อีกเลย จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอก สูญเงินไปกว่า 7 แสนบาท หลังจากนั้นจึงได้มาแจ้งความที่ สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
 

จากการตรวจสอบประวัติของนายอภิสิทธิ์ฯ ทราบว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 มีผู้เสียหายชาวกรุงเทพฯ ได้ถูกนายอภิสิทธิ์ฯ หลอกลวงให้เช่าแคชเชียร์เช็คมูลค่า 200 ล้านบาท โดยนายอภิสิทธิ์ฯ แจ้งว่า สามารถทำได้ ผู้เสียหายจึงได้ตกลง และมัดจำโดยโอนเงินให้นายอภิสิทธิ์ จำนวน 340,000 บาท "หมายจับ"  
 

 

 

ต่อมานายอภิสิทธิ์ฯ ได้ส่งรูปแคชเชียร์เช็ค จำนวน 200 ล้านบาท มาให้ผู้เสียหายดู เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินอีก จำนวน 330,000 บาท ซึ่งภายหลังเมื่อผู้เสียหายได้นำเช็คดังกล่าวไปตรวจสอบกับทางธนาคาร กลับพบว่าเช็คดังกล่าวถูกออกด้วยจำนวนเงิน 5,000 บาท ผู้เสียหายจึงรู้ว่าถูกหลอก "ฉ้อโกงทรัพย์จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับทาง สน.หนองแขม

 

จากการพฤติกรรมของผู้ต้องหา ใช้วิธีหลอกลวง เพื่อให้ได้เงิน และอาจมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ในลักษณะเช่นนี้ ที่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอีกหลายราย 



จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.1 บก.ปทส. ทราบว่า นายอภิโชค หรือนายอภิสิทธิ์ฯ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพักอาศัยอยู่ในเขต ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงได้เฝ้าติดตาม ต่อมาวันที่ 12 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. สามารถจับกุมนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย


 

จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหา ตาม"หมายจับ"  ให้การภาคเสธ โดยให้การว่าได้รับเงินของผู้เสียหายทั้ง 2 คนมาจริง แต่เงินจำนวนดังกล่าวได้ให้กับผู้ที่อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารไปหมดแล้ว ตนได้ค่าดำเนินการครั้งแรก จำนวน 20,000 ครั้งที่สองจำนวน 30,000 บาท และไม่ทราบว่า เอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอม มีผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร นำมาให้ตนอีกทอดหนึ่ง "หมายจับ"  
 


 

 

logoline